มาเที่ยวแบบคนอวดผีที่โซลกันค่ะ ทริปนี้ใช้ทักษะภาษาอังกฤษเยอะอยู่ แต่ก็ได้รู้อะไรแปลกๆ เยอะดี
แต่ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่า ระหว่างทัวร์เขาจะแทรกเรื่องความเชื่อ หรือนิทานปรำปราที่คนเกาหลีเขาเชื่อกัน และเล่าต่อๆ กันมา สำหรับเราชาวไทยบางเรื่องที่เขาเล่าอาจจะดูแบบ ธรรมดาๆ เพราะผีเราน่ากลัวกว่าเยอะค่ะ
ทัวร์เริ่มตอนสองทุ่ม และมีให้เลือกสองแบบ คือ แบบ ชั่วโมงครึ่ง และแบบ สองชั่วโมงครึ่ง เราสองคนแก่แล้วค่ะอยู่ดึกๆ ไม่ค่อยไหว เลยเลือกแบบชั่วโมงครึ่ง
สนนราคาต่อทัวร์คือคนละ 37ดอลล่าร์
นัดเจอกันที่ทางออกที่ 4 รถไฟฟ้าใต้ดินสายสีฟ้า สถานี Seomdaemun ก็นับว่าสะดวกสบาย ถ้าพักไม่ไกลจากที่นี่ แต่หากพักที่กังน้ม ก็ไม่อยากแนะนำค่ะ ไกลเกิน เดี๋ยวจบทัวร์แล้วจะดึกเกินไป อาจจะไม่ปลอดภัย…
ไกด์ของเราเป็นชาวแคนาดา ซึ่งมาเรียนและมแต่งงาน มีครอบครัวกับชาวเกาหลี และตั้งรกรากที่นี่มาเกือบยี่สิบปี ไกด์ดูท่าทางรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะเมืองโซลเป็นอย่างดีค่ะ
ถ้าหากจะซื้อทัวร์นี้จริงๆ อยากให้ซื้อทัวร์ช่วงวันแรกๆ ที่ไปถึงโซลค่ะ เพราะไกด์จะแนะนำสถานที่ท้องเที่ยวหรือ บอกประวัติศาสตร์คร่าวๆ เกี่ยวกับเมืองโซล ซึ่งจะทำให้เราเที่ยวโซลในวันต่อๆ ไปได้ดีขึ้น
เนื้อหาในการทัวร์เราไม่ค่อยมีอะไรมาเล่ามาก เนื่องจากส่วนใหญ่เขาจะพาไปดูสถานที่ ที่แต่ก่อนเคยเป็นอะไร ยังไง แล้วปัจจุบันถูกสร้างเป็นอะไรไปบ้าง
แต่ที่น่าสนใจคือพิพิธภัณฑ์ทัณฑสถาน Seodaemun นั้นถูกสร้างและใช้โดยชาวญี่ปุ่นช่วงยึดครองเกาหลีใต้ พิพิธภัณฑ์นี้น่าสนใจมากๆ เลยค่ะ ซึ่งเราสามารถเดินทางไปได้ด้วย รถไฟฟ้าสายสีส้ม ทางออกที5 รับรองว่าครั้้งหน้ามาโซลจะต้องมาเดินที่พิพิธภัณฑ์ฯนี้แน่นอน..
ต่อจากพิพิธภัณฑ์ก็เดินมาตรงท่อน้ำของเมือง ตรงนี้ไกด์เขาก็จะเล่าประวัติในช่วงยุคสมัยก่อนของเกาหลีที่จะต้องขุดท่อน้ำเพื่อเก็บกับน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง แต่ความเชื่อของชาวเกาหลี คือตามธรรมชาติน้ำจะต้องไหลอย่างอิสระ หากถูกเก็บกักอย่างไม่ถูกวิธี ก็จะทำให้เทพแห่งน้ำโกรธได้ อะไรประมาณนี้ค่ะ เขาก็จะเล่าไปว่า แต่ก่อนมีคนเข้ามาวางแผนผังในการขุดเจาะ แต่เสียชีวิตไปในที่สุด…
จากนั้นก็เดินลัดเลาะ มาที่พระราชวัง. ซึ่งเป็นพระราชวัง หนึ่งในห้า พระราชวังที่สำคัญในโซล ตรงจุดนี้ ไกด์บอกว่า เคยมีลูกทัวร์เจอผีเดินตาม….
แต่ความน่าสนใจของพระราชวังนี้ ไม่ได้อยู่ที่ผี ค่ะ อยู่ที่เนื้อหาของประวัติศาสตร์ของเกาหลี ที่ไกด์พูดถึง กษัตริย์องค์หนึ่งของเกาหลี ที่ลี้ไปอยู่แถวๆ เกาหลีเหนือ แล้วทิ้งเมืองให้เจ้าชายนอกสมรสคอยดูแลและต่อสู้กับข้าศึกซึ่งใช้เวลานานนับสิบปี กว่าจะไล่ตีข้าศึกออกนอกประเทศได้ หลังจากนั้นทำให้ผู้เป็นพ่อได้แต่งตั้งให้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ก็คือ Gwanghaegun of Joseon แต่หลังจากการครองราชย์ไม่นาน ก็ก่อเกิดความชุลมุนเนื่องจากเหล่าขุนนางส่วนใหญ่ไม่พอใจ ที่กษัตริย์องค์นี้เป็นเพียงลูกจากนางสนมธรรมดาๆ ไม่ใช่จากพระราชินี (หรือ ไทเฮา) ทำให้มีการขับไล่พระองค์ออกไปยังเกาะแห่งหนึ่ง และอยู่ที่นั่นจนสิ้นชีวิต ชาวเกาหลียังแบ่งออกเป็นสองฝักสองฝ่าย บ้างก็เสียใจที่พระองค์ถูกกระทำเช่นนั้นเพราะพระองค์เป็นคนรักษาประเทศไว้ยามศึกสงคราม บางคนก็ไม่สนใจและไม่คิดว่าพระองค์เป็นกษัตริย์คนหนึ่งของเกาหลีซะด้วยซ้ำ…
เรายังแอบคิดว่า ไกด์น่าจะไปทำทัวร์วัดวังน่าจะดีกว่า เพราะว่า ข้อมูลแน่นมาก ขนาดคืนนี้มีน้องผู้ชายที่เป็นชาวเกาหลีแท้ๆ ยังได้แค่พยักหน้าตาม แต่พอถามน้องเขาก็ตอบไม่ได้…เหมือนพวกเราแหล่ะ จู่ๆ มาถามถึงประวัติศาสตร์ไทย เราก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน
ในระหว่างทัวร์นั้นมีช่วงหนึ่งที่เขาพาไปเดินแถวๆ สถาณฑูตฯ โดยเฉพาะสถาณฑูตอเมริกาฯที่เขาเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลอเมริกาได้ซื้อที่ดินนี้ไว้ ถือเป็นที่ดินแห่งหนึ่งที่อเมริกาฯครอบครองและอยู่นอกประเทศอเมริกา แต่ประเด็นคือ ทำไม เกาหลีใต้ จึงยอมขายให้อเมริกาฯ….ไปค้นหาคำตอบที่ทัวร์นี้เอาเองค่ะ เขียนหมด ก็เกรงใจเขา
แต่…ถ้าหากคู่รักใดที่มีความเชื่อเรื่องความรัก ฯลฯ อย่ามาทัวร์นี้ค่ะ เพราะจะมีช่วงหนึ่งที่เขาเดินผ่านทางผีขี้อิจฉา เพราะผีเหล่านี้ตายแบบไม่เคยมีแฟน ไม่เคยเสียตัว ดังนั้นถ้าเขาหากเห็นคู่รักเดินมา เขาก็จะสาปให้เลิกกันค่ะ
แต่นั้นก็เป็นแค่เพียงความเชื่อค่ะ ความรักเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ผีไม่เกี่ยว…. (รู้สึกว่าเราจะน่ากลัวกว่าผีแล้วนะคะเนี่ย)
สนใจทัวร์นี้ลองกูเกิ้ลหาดูค่ะ แต่พวกเราไปทัวร์กับที่นี่ค่ะ https://www.koreafoodtours.com/
จบทัวร์ตอนสามทุ่มครึ่ง แต่หากอยากเดินต่อก็สามารถจ่ายเงินสดและร่วมเดินต่อไปอีกชั่วโมงหนึ่งก็ได้ ทัวร์นี้ไม่ได้จัดทุกคืน หากสนใจลองเข้าไปเช็ควันเวลาก่อนเดินทางนะคะ