มาลาวใต้จะ3วันแล้ว แต่ไม่ได้มีโอกาสได้เล่นน้ำตกเลย ก็เพราะน้ำตกที่ลาวใต้ส่วนใหญ่มีไว้ให้ดูค่ะ
แต่วันนี้เราได้เที่ยวต่อถึง3 น้ำตกใหญ่ๆ เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของทริปนี้ ก็วันนี้แหล่ะค่ะ โดยเราจะไปเที่ยวน้ำตกตาดผาส้วม ที่นี่เขามีหมู่บ้านชนเผ่าดั้งเดิมของลาวอยู่ด้วยค่ะ จากนั้นก็ไปดูน้ำตกตาดฟาน น้ำตกที่ตกจากยอดภูเขาลงสู่หุบเหวที่มีความสูงถึง 120เมตร ต่อด้วยน้ำตกตาดเยือง น้ำตกที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแถมเรียกว่าเป็นน้ำตกเดียวที่เล่นน้ำได้ด้วยค่ะ สุดท้ายไปกราบนมัสการพระใหญ่ที่วัดภูสาเหล้า
โดยพวกเราเริ่มกันที่ออกเดินทางจากโรงแรมประมาณ 9 โมงเช้า ใช้เวลาเดินทางสั้นๆ ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงไปน้ำตกตาดผาส้วมก่อน ไม่ต้องแปลเองเป็นภาษาไทยนะคะ เพราะคำว่าส้วม ของชาวลาว แปลว่าห้องนอนค่ะ ที่นี่มีสัมปทานหมู่บ้านชนเผ่าลาว ของคุณลุงวิมล กิจบำรุง ที่ว่ากันว่าคุณลุงถูกหวยที่เยอรมันและได้แต่งงานกับสาวหลวงพระบางจึงได้มาลงทุนขอสัมปทานที่นี่ โดยคุณลุงวิมลรวบรวมชนเผ่าต่างๆของลาวให้มาอยู่ไว้ด้วยกันที่นี่ แต่ช่วงที่ท่านได้พยายามดั้นด้นและรวมรวมชนเผ่าต่างๆ นั้น บางชนเผ่าต้องเดินทางเข้าไปในป่าลึก คุณลุงวิมลก็เดินทางเข้าไปชักจูงพวกเขาด้วยตัวเอง แต่ขณะที่เดินทางเกิดเป็นไข้มาเลเซีย และป่วยหนัก ทำให้คุณลุงตาบอดในภายหลัง
แต่ในที่สุดคุณลุงก็สามารถรวบรวมชนเผ่าต่างๆมาอยู่ที่นี่ได้ ด้วยข้อแม้ว่าชนชาวเผ่าสามารถกลับบ้านเดือนละ 1 ครั้ง ชนเผ่าของชาวลาวต่างมีวัฒนธรรมประเพณีที่เขาก็ยังดำรงไว้และใช้ชีวิตเหมือนปกติที่นี่
บางคนก็มีทักษะในการทอผ้า และทอขายกันเองสร้างรายได้ให้ตัวเองด้วยค่ะ ผ้าสีสวยมากๆ และลายทอก็สวยงาม สนนราคาเพียงผืนละ 200 บาท ถ้าหากชอบซื้อผ้าถุง หรือผ้าซิ่น แนะนำให้ซื้อที่นี่เลยค่ะ ถ้าไปซื้อในตลาดส่วนใหญ่จะราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท และเหมือนไม่ใช่ผ้าทอมือแบบนี้ค่ะ
ชนเผ่าที่นี่ก็มีหลายเผ่า และมีความหลากหลายทั้งบ้าน ที่อยู่ และ การแต่งตัวค่ะ เราเดินมาตรงศาลาตรงกลาง พอดีเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม เราเลยเจอเด็กๆ ร้องและเต้นเพลงพื้นบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งร้องทั้งเต้น แล้วยังโพสท่าถ่ายรูปกับพวกเราด้วย
จากหมู่บ้านชนเผ่าเล็กๆ เราก็เดินอ้อมหมู่บ้านไปอีกไม่กี่ก้าว ข้ามแม่น้ำอีกนิดหน่อย ไม่ถึงห้านาที เราก็เจอน้ำตกตาดผาส้วมค่ะ ช่วงนี้น้ำเยอะเลยไหลแรงและสวยงาม พวกเราได้แต่มองชมความสวยงามและถ่ายรูปบริเวณหน้าน้ำตก…และในบริเวณนี้ยังมีร้านอาหารของลุงวิมลด้วยค่ะ ถ้าหิวหรือมาถึงตอนเที่ยงก็ทานสะที่นี่แหล่ะค่ะ แต่เขาไม่รับบัตรเครดิตซิตี้แบงค์นะคะ เอ่อ…ไม่ทราบเพราะเหตุใด
น้ำตกนี้มีไว้ให้ถ่ายรูปเท่านั้นค่ะ เป็นวิวสวยสวยแต่ถ้าจะสังเกตุให้ดีจะเห็นได้ว่ามีการสกัดหินต่อเติมเพิ่ม ทำให้น้ำตกดูหลากหลายและสวยงามมากขึ้น
จากนั้นเรากลับขึ้นรถ และเดินทางต่อไปอีกนิดนึงก็ถึงน้ำตกตาดฟานเป็นน้ำตกคู่แฝดที่ไหลลงจากภูเขาสูงถึง 120 เมตร
น้ำตกตาดฟาน คนลาวเรียกว่า น้ำตกเมียน้อย เพราะได้แต่มองดูเฉยๆ ช่วงนี้น้ำเยอะ น้ำตกสวยงามมากๆ นี่ถ้าประเทศลาวสามารถทำทางเดินลงไปดูน้ำตกข้างล่างได้จะยิ่งอะเมซซิ่งมากๆ
เดินชมนั่นชมนี่รอบๆ น้ำตกตาดฟาน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมชิมชากับกาแฟบริเวณน้ำตกตาดฟานด้วยค่ะ จากนั้นกลับขึ้นรถแล้วเดินทางต่อไปที่น้ำตกตาดเยือง (คนไทยเรัยกว่าน้ำตกเรียงผา) ที่น้ำตกนี้จะไปน้ำตกแรกและน้ำตกเดียวของทริปนี้ ที่เราสามารถเล่นน้ำได้ เราจึกวาดหวังและฝันใฝ่ว่าจะได้เล่นน้ำอย่างเมามันส์ แต่มาถึงประมาณเที่ยงๆ หิวพอดี เลยทานข้าวที่นี่ คือจะมีร้านส้มตำอยู่ร้านหนึ่งเป็นเจ้าผูกขาดแน่ๆ เพราะมีอยู่ร้านเดียวเท่านั้น ราคาขอแอบบอกนิดนึงนะคะว่า แพงไปนิด แต่มันเป็นเรื่องปกติของร้านส้มตำที่อยู่บริเวณน้ำตก
ทานอาหารเสร็จสรรพ บริเวณนี้บอกตรงๆ ว่าเรายังไม่เห็นน้ำตก แต่พอไกด์พาเราเดินไปดูก็โอ้วววว มันสวยและใหญ่กว่าที่เราคิดค่ะ นี่พวกเราไม่รีรอ รีบลงไปดูกันเลย เขาให้เดินลงไปดูได้ แต่ระวังลื่นนะคะ
โหย อลังการมากๆเรียกว่าสวยไม่แพ้น้ำตกที่อื่นๆที่พวกเราได้ไปเที่ยวมา น้ำตกนี้ที่ซันนี่มาถ่ายโฆษณากาแฟดาวด้วยนะคะ ด้านล่างนี่ละอองน้ำสาดเต็มไปทั่วเลย บางคนจะใส่ชุดกันฝน แต่เราเอาผ้ามาผืนนึงกันหนาว
เพราะมันหนาวมากค่ะ โดยรวมแล้วสวยงามมากๆ ไกด์บอกว่าถ้าเป็นช่วงหน้าแล้งประมาณเดือนมีนา-เมษา นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นน้ำตรงจุดนี้ได้ แต่ตอนนี้ต้องเดินกลับไปด้านบนและเล่นแถวต้นน้ำหรือบริเวณหลังร้านส้มตำค่ะ
เดินกลับขึ้นไปข้างบนก็เดินไปเจอเถาวัลย์อันใหญ่ ทำให้คิดฮอด (คิดถึง) คลาสโยคะฟายขึ้นมา…
แล้วเดินไปเล่นน้ำต่อ นี่แหล่ะค่ะบริเวณต้นน้ำ
ที่นี่น้ำเย็นมากๆประกอบกับอากาศที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดเวลาทำให้ไม่มีคนลงเล่นน้ำเลยแต่เราตั้งใจไว้แล้ว แถมชุดก็เตรียมพร้อมสำหรับการเล่นน้ำ จึงกระโดดลงไปเล่นอยู่คนเดียวค่ะ จริงๆลงไปแล้วมันไม่เย็นเลยนะคะ ไปเล่นจนสาแก่ใจ ก็เดินกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ ที่นี่มีห้องน้ำให้เปลี่ยนเสื้อผ้า ราคาค่าบริการคนละ 10 บาท เห็นไหมค่ะ เวลาเดินทางไปลาวอย่าลืมเอาแบงค์ย่อยไปด้วยนะคะ
บริเวณรอบๆมีของขาย ที่เป็นที่นิยมก็ได้แน่นอนคือพวกเสื้อยืดเช่นเสื้อยืด ยังมีไม้แกะสลักบางจำพวก
เที่ยว 3 น้ำตกแล้ว แต่นี่เพิ่งบ่าย 2 นิดๆเอง ถึงเวลาไปเที่ยววัดต่อค่ะ ไปวัดก็ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยค่ะ เราได้ผ้าซิ่นที่ซื้อมาจากหมู่บ้านชาวเขาชาวลาวฯมาสวมทับกางเกงขาสั้น น้องหนิงก็ช่วยกันแต่งตัว คุ้มจริงๆ ซื้อแล้วได้ใช้เลย แถมหน้าตาเราก็เนียนๆ เป็นสาวชาวลาวได้ (แต่ออกจะเข้มไปกว่าเขามากๆ สาวๆ ที่นี่ผิวขาวสวยทุกคนค่ะ)
ที่นี่คือ วัดภูสาเหล้า วัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาและมีพระประธานองค์ใหญ่หันหน้าออกแม่น้ำโขง เมื่อขึ้นไปข้างบนวัดสามารถมองเห็นวิวทั้งเมืองของปากเซ
เราเข้าไปทำบุญไหว้พระขอพรก่อนที่จะเดินชมวิวรอบรอบวัด ด้านหน้าๆ วัดจะมีพระพุทธรูปสีทองอร่ามตั้งเรียงรายจำนวนมาก ไกด์บอกเราว่ามีผู้มีจิตศรัทธาน้ำมาถวายเจ้าอาวาสค่ะ แต่ดูๆ จากที่อยู่ผู้มีจิตศรัทธส่วนใหญ่จะอยู่ต่างประเทศกันนะคะ
ขาลง พวกเราให้รถตู้ลงไปรอรับเราด้านล่างส่วนพวกเราเดินลงบันไดกันเอง แอบสงสารไกด์เหมือนกันที่จะต้องมาเจอเรา แต่น้องหนิงเขาสปิริตแรงกล้าค่ะ เขาบอกว่ายอมตายในหน้าที่!
บันไดช่วงแรกน่าจะเกิดจากความศรัทธา ไม่ได้เน้นความสวยหรือความสบาย แต่ขึ้นลงได้
แต่ช่วงต่อมาเป็นช่วงบันไดปูนแอบชันค่ะ
ช่วงเย็นๆแบบนี้มีเด็กนักเรียนมาวัดกัน เห็นเครื่องแบบนักเรียนแล้วมันน่ารักดีค่ะ พวกเราจึงขอถ่ายรูปกับน้องๆด้วย
จบทัวร์วันนี้ประมาณ 4 โมงเย็นนิดๆ ไกด์ถามเราว่าอยากไปนั่งทานอาหารริมแม่น้ำโขงไหมฦ แต่สภาพพวกเราตอนนี้ไม่สามารถจะไปเจอผู้คนได้ค่ะ จึงแยกตัวมาอาบน้ำจะออกไปหาอะไรกินเอง
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ลาวแล้วพรุ่งนี้ตื่นมาก็เดินทางกลับกลับกรุงเทพค่ะ แต่ระหว่างเดินทางกลับ พวกเรายังแว่ะช้อปปิ้งที่ตลาดดาวเรืองที่นี่ ก่อนจะเดินทางเข้าอุบลฯเพื่อแว่ะไปชมเทียนแกะสลักพรรษาของปีนี้ด้วยค่ะ อ่านต่อ (เร็วๆ นี้)
วันที่เดินทาง 1 สค 2558
