ก่อนอื่นอย่าอ่านว่า ดีเอ็มแซ่ด นะคะ เพราะเขาออกเสียงแบบชาวอเมริกันคือ ดีเอ็มซี
(English)
ก็เราอยู่ฝั่งเกาหลีใต้ แต่จะไปส่องเกาหลีเหนือผ่านช่องแบ่งเขตแดน โดยเส้น DMZ นี้จะมีรัศมีจากเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างสองประเทศ ประมาณ 2 กิโลเมตร (ทั้ังสองฝั่ง) โดยในช่วง 2 กิโลเมตรของทั้งสองประเทศนี้แหล่ะค่ะ ค่ะคือเขต DMZ หรือ เขตปลอดทหาร (Demilitarized Zone)
แค่พูดถึงเกาหลีเหนือ เราก็ขนหัวลุกแล้ว จึงเป็นที่มาของทัวร์นี้แหล่ะค่ะ ที่เหล่านักท่องเที่ยวที่อยากท้าทายอำนาจ ว่าได้เข้าไปใกล้ ความตาย เอ้ย ใกล้เขตเกาหลีเหนือ!
ก่อนอื่น แนะนำให้จองทัวร์นี้ ล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์ค่ะ เพราะว่า ถ้าเต็มแล้วก็เต็มเลย เราจองกับ Cosmojin รวมๆ ก็โอเคค่ะ มีการบริหารจัดการดี และปลอดภัย แต่ป้ายที่ห้อยคอเหม็นมาก น่าจะถูกใช้มาหลายครั้งแล้ว
ส่วนทัวร์ JSA ให้จองล่วงหน้าเป็นเดือนค่ะ เพื่อความชัวร์ (ล่าสุดเราไป JSA มาแล้ว อ่านต่อได้เลย)
จากนั้นก็เตรียมพาสปอร์ต ในส่วนตัวแล้วคิดว่าโชคดีที่ไม่ได้ไปทัวร์นี้ช่วงหน้าร้อน เพราะว่า ขนาดปลายกันยายน เย็นๆ แต่เวลาเดินลงไปอุโมงค์แล้วร้อนและ อับอากาศมาก ยิ่งเวลาทัวร์หลายๆ บริษัททัวร์มาเจอกัน เหมือน อากาศในถ้ำจะไม่เพียงพอ หน้าร้อน อาจจะร้อนตายแน่ๆ
ความคาดหวังจากทัวร์นี้ ได้เดินเยอะดี ได้ถ่ายรูปเกือบทั้งหมด ยกเว้นตรงไฮไลท์ตอนที่เข้าอุโมงค์ 555 เขาไม่ให้เอากล้องหรือมือถือลงไปเลยค่ะ
ในส่วนรายละเอียดของทัวร์นั้น ก็เริ่มจากที่เราจองทัวร์ผ่านเว็บ แล้วเขาจะส่งอีเมล์มาคอนเฟิร์มวันเวลากับเรา ว่าจะมารับตอนไหน ทัวร์DMZ บางทัวร์ มารับ ไม่มาส่ง หรือบางทัวร์ ก็ไม่ทั้งมารับและมาส่งค่ะ ต้องอ่านรายละเอียดก่อนซื้อทัวร์
ทัวร์ DMZ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ยังไม่เคยเห็นบริษัทไหนทำเป็นภาษาไทยนะคะ ดังนั้นเลือกซื้อทัวร์ตามภาษาที่เราถนัดได้
เมื่อรับนักท่องเที่ยวครบแล้ว รถบัสพวกเราก็ขับรถมุ่งตรงจากโซลไปที่ จุด DMZ เลยค่ะ ซึ่งมีระยะทางประมาณ 50 กม หรือประมาณ 50 นาที
ณ เวลานี้จำได้ว่า ปวดห้องน้ำมาก ก็ต้องทนไปจนที่หมาย เพราะเขาไม่แว่ะที่ไหนเลยค่ะ
พอถึงจุดแรก เราก็วิ่งลงไปเข้าห้องน้ำเลย ประเด็นคือ ไกด์มัวลีลาไปหน่อย มีเวลาตั้ง 50 นาที ดันมาให้ทุกคนบนรถทัวร์เริ่มทยอยเขียนชื่อและเลขที่พาสปอร์ตกันตอนใกล้จะถึง!
โชคดีที่ห้องน้ำที่นี่สะอาด แถมมีร้านกาแฟ และ ร้านอาหาร รวมทั้ง POPEYES ด้วย สงสัยมาเปิดเอาใจทหารอเมริกัน
ตรงนี้หลักๆ ก็มีจะหัวรถจักรรถไฟ ที่เขาลากมาตั้งโชว์ไว้ และจะมีส่วนสะพานที่ยื่นออกไปจนเกือบแตะกับเส้นพรมแดง ตรงนี้ต้องซื้อตั๋วเพิ่ม คนละ 2000 วอน เพื่อจะได้เดินออกไปเสี่ยงกระสุนจากฝั่งเกาหลีเหนือเข้าไปอีก…อ้าว ???
ตรงทางเดินนี้ เจ้าหน้าที่จะบอกว่า ห้ามถ่ายรูปส่องไปทางซ้าย หรือทางขวา ให้ถ่ายแบบแนวตรงๆ เท่านั้น
แต่ทัวร์เขาจอดให้เดินเล่นที่นี่แค่ 25 นาที ไกด์ไม่แนะนำให้ซื้อของชำร่วย ของฝาก จากที่นี่เพราะมีราคาแพง เราก็มีเวลาน้อย เลยไม่ได้สำรวจให้
จากจุดนี้เราก็จะไปต่อกันที่อุโมงค์ฯ ที่เขาเจอว่า เกาหลีเหนือลักลอบขุดอุโมงค์เพื่อจะไปถล่มเมืองโซลค่ะ ก่อนจะไปจะผ่านจุดตรวจ ที่จะมีทหารหนุ่มหล่อแบบ KPOP ขึ้นมาเดินตรวจพาสปอร์ต โดยเขาให้พวกเราถือพาสปอร์ตหน้าที่มีรูปเราให้เขาเดินผ่านดูค่ะ ไกด์บอกว่า ห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด!
เสียดาย หนุ่มเกาหลีตามท้องถนนไม่เห็นหล่อเหลาแบบน้องๆ ทหารนี้เลยค่ะ ไกด์บอกว่า น้องๆ ทหารนี้น่าจะมีอายุประมาณ 19-21 ปี เพราะตามกฎหมายเกาหลีใต้ หนุ่มๆ ทุกคนเมื่ออายุ 19 ปีต้องเป็นทหาร และเป็นไปคนละ 21 เดือนค่ะ มิน่าล่ะ ดูเด้กเด็ก!
ผ่านจุดตรวจเรามาถึงอุโมงค์ (แค่สิบกว่านาทีจากจุดจอดจุดแรกค่ะ) อุโมงค์ที่เขาอนุญาติให้เราเข้าเดินไปดูนี้ คืออุโมงค์ที่พบเจอเป็นอันดับที่สาม และปัจจุบันเกาหลีใต้พบเจออุโมงค์ทั้งหมด 4 อุโมงค์ค่ะ ซึ่งมีความยาวและจุดเริ่มต้นที่เกาหลีเหนือต่างกันไป เพียงแต่มีจุดเป้าหมายเดียวกันคือ ไปที่เมืองโซล!
ก่อนจะเข้าอุโมงค์เขาให้เข้าไปดูประวัติความเป็นมา และวีทีทัศน์เรื่องราวระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ค่ะ
จากนั้นก็ให้เดินเข้าอุโมงค์ โดยให้ฝากสัมภาระทั้งหมด รวมทั้งมือถือ กล้อง กระเป๋าที่ล็อกเกอร์ที่เขามีไว้ให้บริการ(ฟรี)ข้างในค่ะ เราถามไกด์ว่าถือน้ำเปล่าไปได้ไหม เขาก็อนุญาติค่ะ
ขาลงจากถ้ำ เขามีหมวกนิรภัยให้ใส่กันกระสุน เอ้ยไม่ใช่ ใส่กันกระแทกค่ะ เราแนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าให้ใส่ เพราะถ้าหัวกระแทกเพดานถ้ำ เลือดแตกในสมองแน่ๆ ค่ะ สำหรับผู้หญิงหัวเล็กๆ เช่นเรา ให้แนะนำเอาผ้า ขนหนูหรือกระดาษเช็ดหน้าแล้วสวมหมวกทับ ทำให้หมวกแน่นกระชับขึ้น อีกอย่าง ก็เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากหมวกด้วยแหล่ะค่ะ
ขาลงนี่จะเป็นทางลาดลงประมาณ 365 เมตร แต่เข้าถ้ำ มันจะเหนื่อยง่ายเพราะอากาศมันจะน้อยกว่าข้างนอก ค่อยๆเดินเข้าไป ในส่วนที่เป็นถ้ำจริงๆ เขาจะเปิดให้เดินประมาณ 250 เมตร เดินไปจนสุด แล้ว จะมีรูให้ส่อง ซึ่งส่องไปถ้าเห็นแต่ผนัง ก็ถือว่าโชคดีค่ะ เพราะถ้าเห็นเป็นทหารหรืออย่างอื่น ก็คงออกจากถ้ำกันไม่ทัน 555
สรุป เราลงมาเดินดูถ้ำกันเล่นๆ เสียดาย และไม่เข้าใจว่าทำไม เขาไม่ให้เราถ่ายรูป…
แต่เขาทำถ้ำจำลองด้านนอกให้ถ่ายรูปเล่นค่ะ
ขาเดินขึ้นนี่สิค่ะ ได้เผาผลาญไปหลายแคลอรี่
กลับขึ้นมาอย่างปลอดภัย ก็ซื้อของฝาก ของที่ระทึกกัน ไกด์เขาแนะนำ ช้อคโกแลต ดีเอ็มซี ซึ่วพวกเราก็ซื้อมาสองแบบ แบบถั่วเขียวกับถั่วดำ และอีกอย่างที่น่าสนใจคือ “หลวด” แบ่งเขตระหว่างเกาหลีเหนือ กับเกาหลีใต้ เขาตัดมาแบ่งขาย 555 สนนราคากล่องละ 15,000วอน ส่วนผู้ชายๆ เขาก็จะซื้อหมวก หรือ เสื้อยืดกันค่ะ ราคาก็ตามขนาดไซส์
ร้านๆ ที่นี่รับบัตรเครดิตกันทุกร้านค่ะ ไม่ต้องกังวลถ้าไม่ได้พกเงินสดมา
หลังจากที่เดินขึ้นลงอุโมงค์แล้ว เราก็แว่ะมาจุดชมวิว Dora Observatory บนยอดเขา ซึ่งตรงนี้สามารถมองเห็นหมู่บ้านๆ จริง และหมู่บ้านปลอมๆ ที่เกาหลีเหนือเขาสร้างขึ้นมาด้วยค่ะ ด้วยกลอุบายที่สร้างหมู่บ้านปลอมขึ้นมาเพราะจะได้หลอกคนทั่วไปว่าประชาชนที่นี่สามารถอาศัยบริเวณชายแดนได้
ตรงนี้สามารถส่องกล้องดูหมู่บ้านทั้งจริงและปลอมในเกาหลีเหนือได้
แอบเสียวกระสุนบินผ่านหัว แต่จริงๆ เขาไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น…..
ออกจากจุดนี้ก็กลับไปผ่านจุดตรวจพาสปอร์ตอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่า ไม่มีใครลักลอบอยู่ต่อ..
อีกจุดที่เขาจะหยุดก็คือ Darasan Train Station ถ้ารู้ภาษาเกาหลีบ้างแล้วจะรู้ว่า คำว่า ซาน แปลว่า ภูเขา ดังนั้นชื่อสถานีก็คือชื่อภูเขาโดรา ซึ่งเป็นภูเขาที่เป็นที่ตั้งที่สำคัญในช่วงที่มีสงครามกัน
ชาวเกาหลีใต้มีความฝันใฝ่ว่าสักวัน เกาหลีเหนือจะเปิดดินแดนต้อนรับเกาหลีใต้ โดยปัจจุบันที่นี่เป็นสถานีสุดท้ายปลายทางในเกาหลีใต้ แต่ทว่าอนาคตอาจจะได้เป็นสถานีแรกที่ได้ไปเกาหลีเหนือ….
จุดนี้ทุกคนสามารถแสตมป์เล่น แต่ขอแนะนำ ว่าอย่าไปแสตมป์เล่นในเล่มพาสปอร์ตนะคะ
ไกด์บอกว่า ทัวร์ DMZ เป็นทัวร์ที่มีความปลอดภัยไม่ถึง 100% นั่นก็หมายความว่า เขาไม่รับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น หรือหากมีสถานการณ์ทางการทหารเกิดขึ้น เขาก็สามารถยกเลิกทัวร์วันนั้นๆ ไปค่ะ (บางบริษัทเขาจะมี plan b ไว้หากเกิดกรณีที่ไม่สามารถทำทัวร์นี้ได้ในวันนั้นๆ)
ทัวร์ DMZ อาจจะถูกยกเลิกได้ทุกเมื่อ หากสถานการณ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เลวลง หรือ แม้กระทั่ง ดีขึ้น ดังนั้นหากมีโอกาสหรืออยากมีความทรงจำกับทัวร์แบบนี้แบบพวกเรา มาเกาหลีใต้ก็ห้ามพลาดนะคะ
อ่านต่อ ทัวร์ JSA ทัวร์นี้ได้เดินเข้าไปในเขตเกาหลีเหนือเลย!
จริงๆ ทัวร์จบลง ณ ตรงนี้ ค่ะ เขาก็ขับตรงเข้าสู่โซล ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50-60 นาที แต่เขาแว่ะให้พวกเราดูโรงงานทำเครื่องประดับ ก็ดูได้แต่ดูจริงๆ เพราะมันแพงมาก ตรงนี้เป็นส่วนที่เราผิดหวังมากที่สุดในการมาทัวร์กับ Cosmojin…แต่เราก็ไม่รู้นะ ว่าบริษัททัวร์อื่นจะต้องพามาที่นี่ด้วยหรือเปล่า เพราะบางประเทศเขาจะบังคับให้รถทัวร์จอดที่แบบนี้ด้วย
ทัวร์ของ cosmojin มาจอดส่งที่ Itaewon และไม่มีใครทิปไกด์หรือคนขับเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติในเกาหลีใต้ ว่าเขาไม่ทิปกันค่ะ
สำหรับพวกเราก็ได้เดินหาอะไรทานเล่นกันที่ Itaewon เพราะที่นี่อาหารสไตล์นานาชาติเยอะมาก!
ทัวร์ 8 am- 2pm
55,000 won per person.