ทัวร์กระบี่ เดินป่าแช่น้ำตกร้อน สระมรกต วัดถ้ำเสือฯ

English Version is coming soon! นอกจาก กระบี่จะมีที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามแล้ว กระบี่ก็ยังมีที่เที่ยวในตัวจังหวัดที่พลาดไม่ได้อีกด้วย นั่นคือ ทัวร์ ของพวกเราวันนี้ เป็นทัวร์น้ำตกร้อน สระมรกต และวัดถ้ำเสือฯ (บางที่ก็เรียกรวมกันว่า ซิตี้ทัวร์ (City Tour) หรือ ทัวร์ป่า (Jungle Tour) แต่หลักๆ ก็คือเที่ยวสามที่ ดังกล่าวค่ะ

เริ่มทัวร์วันนี้ ใช้ยานพาหนะ เป็นรถตู้สภาพใหม่ มีคนขับ พร้อมไกด์นำเที่ยวและผู้ช่วยไกด์ที่คอยดูแลพวกเรา ลูกทัวร์ทั้งหมด 8คน ที่มาเจอกันโดยไม่ได้นัดหมาย บ้างก็พักโรงแรมเดียวกับพวกเรา และบ้างก็พักอยู่โรงแรมใกล้เคียง แต่มีลูกทัวร์คนไทย แค่ 2คนเองค่ะ ไกด์จึงต้องพูดนำทัวร์เป็นภาษาอังกฤษ

พวกเราเริ่มทัวร์ประมาณ 9 โมงเช้า แนะนำให้เตรียมชุดไปเปลี่ยนและเตรียมผ้าขนหนูไปด้วย เพราะถ้าไม่ลงเล่นน้ำและแช่น้ำร้อน ก็ไม่สนุกแน่ๆ

เราเริ่มทัวร์กันที่น้ำตกร้อน ที่นี่นับเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยว unseen ของไทยด้วยค่ะ ตัวน้ำตกตั้งอยู่ใน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ใกล้ๆ กับสระมรกต (แต่ไม่ได้ใกล้ขนาดเดินถึงกันได้นะคะ ต้องขับรถต่อไปประมาณ 15 นาทีค่ะ)

ราคาทัวร์พวกเราจะรวมราคาค่าเข้าไปยังน้ำตกร้อน ชาวต่างชาติคนละ 90 บาทแล้ว (ราคาคนไทยประมาณ 10-20 บาทค่ะ) ที่น้ำตกร้อนแห่งนี้ มองดูคล้ายโขดหินเป็นชั้นลดหลั่นกัน มีลักษณะเป็นหลุมเป็นแอ่งหิน คล้ายๆ กับอ่างอาบน้ำ ต้องค่อยๆ สลับกันเข้าไปนั่งในแต่ละที่

ไกด์บอกว่า แต่ละแอ่งหินนี้ น้ำจะมีธาติธรรมชาติแตกต่างกันไป จึงแนะนำให้นักท่องเที่ยวลงแช่น้ำแต่ละแอ่งๆละ ประมาณ 5 นาที และลงแช่น้ำเย็นข้างล่างอีกประมาณ ห้านาทีแล้วก็ค่อยขึ้นค่ะ

เวลาลงแช่ตัวลงน้ำตกร้อนให้ค่อยๆ ลง เพราะว่าน้ำมีอุณหภูมิประมาณ 30-32 องศาเซลเซียสค่ะ และอย่าไปเชื่อว่า ยิ่งแช่นาน ยิ่งดีนะคะ มันจะทำให้เราป่วย ให้แช่กำลังพอดี คือประมาณ 20-25 นาที…

จากน้ำร้อนบนโขดหินเสร็จ ก็เชื่อสูตรของไกด์ว่าให้ลงแช่น้ำเย็นเป็นน้ำสุดท้าย น้ำเย็นก็เย็นจริงๆ อุณหภูมิแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ก็ต้องค่อยๆ ลง ให้ร่างกายค่อยๆ ปรับอุณหภูมิ

เพื่อนชาวต่างชาติที่มาเที่ยวเดียวกันก็เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่พวกเราจะเตรียมตัวเดินทางไปต่อกันที่ สระมรกต…



สระมรกต เป็นสระน้ำ ที่กำเนิดมาจากธารน้ำอุ่น ใน ผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ–บางคราม ในการท่องเที่ยวสระมรกต นักท่องเที่ยวห้ามนำอาหารทุกชนิดเข้าไปรับประทานที่สระมรกต เพราะจะทำให้น้ำสระมรกตเน่าเสีย ให้นำอาหารและของฝากแขวนไว้ที่ทางด้านหน้าทางเข้า

การเดินเข้าไปที่สระมรกตมีสองทาง คือเดินสำรวจป่า ธารน้ำ ทางนี้จะอ้อม และเป็นระยะทางประมาณ 1,400 เมตร หรือจะเดินตัดตรงไปสระมรกตเลย ก็ใกล้ว่านิดหน่อย ประมาณ 800 เมตร สำหรับพวกเราเดินตรงไปเล่นน้ำก่อน แล้วขากลับค่อยเดินสำรวจป่ากันค่ะ

มาถึงสระมรกตแล้ว มีนักท่องเที่ยวสวมใส่ชุดว่ายน้ำเล่นน้ำกัน ภาพที่เห็นไม่ต่างจากสระว่ายน้ำทั่วไปเลยค่ะ แต่จริงๆ แล้วที่นี่คือ สระน้ำธรรมชาติ มีขนาดกว้างและยาวประมาณ 20×25 เมตร (กว้างมากๆ) น้ำในสระมรกตจะมีสีเขียว เกิดจากสาหร่ายบางชนิดในตระกูลสาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน ที่อยู่ในน้ำพุร้อน ประกอบกับน้ำในสระมรกตจะมีสารแคลเซียมคาร์บอเนต (CaCO3) มีคุณสมบัติเป็นด่าง ทำให้น้ำใส และตกตะกอนเร็ว เมื่อกระทบกับแสงแดดที่ส่องลงมาจะทำให้มองเห็นน้ำเป็นสีเขียวมรกต

นอกจากจะได้ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานแล้ว เขายังว่าการแช่น้ำที่สระมรกตนั้นเป็นผลดีต่อผิวพรรณและสุขภาพอีกด้วย

บริเวณรอบสระมรกตจะมีพันธ์ไม้หลายชนิดที่ร่มรื่น มีสะพานเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมธรรมชาติที่ราบต่ำภาคใต้ และแว่ะถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะเดินกลับมาที่รถและทานข้าวกลางวันที่ทางทัวร์จัดเตรียมไว้ให้

ตรงทางออก หรือตรงทางเข้า เขามีตากล้องแอบดักถ่ายภาพ แล้วพิมพ์รูปใส่กรอบสำหรับเป็นของที่ระลึก ราคาอันละ 100 บาท น่ารักดีค่ะ และถ้าไม่ชอบภาพที่เขาแอบถ่าย ก็สามารถขอให้เขาถ่ายให้ใหม่ได้ ใช้เวลาทำไม่ถึงห้านาทีก็ได้รูปไว้เป็นที่ระลึกแล้ว

ไปต่อกันที่ วัดถ้ำเสือ อยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ประมาณ 9 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ บ้านถ้ำเสือ พื้นที่บริเวณวัด ถึงประมาณ 200 ไร่ ประกอบไปด้วพื้นที่ราบ หุบเขาและยอดเขา ชื่อวัดนั้นมีข้อสันนิษฐานว่าเนื่องจากในอดีตเคยมีเสืออาศัยอยู่ภายในถ้ำ แต่ปัจจุบันไม่มีเสือแล้ว

ณ วัดถ้ำเสือแห่งนี้ ยังมีจุดชมวิวบนยอดเขา ที่ต้องขึ้นบันไดถึง 1,237 ขั้น แต่เสียดายที่พี่ไกด์บอกว่า บันไดชัน และอันตราย ไม่แนะนำให้พวกเราขึ้นไป (แต่เราก็ยังเห็นคนอื่นๆ เดินขึ้นลงกันตลอด) และพาพวกเรามาด้านใน เพื่อแนะนำพื้นที่ชมถ้ำ และก็ให้พวกเราเดินขึ้นไปสำรวจกันเอง ก็แอบแปลกใจว่า ทำไมไกด์ไม่ขึ้นมากับพวกเรา???

ด้านบนเป็นถ้ำตื้นๆ บางที่มีนักปฎิบัตรธรรมอยู่ด้วย พวกเราก็เดินชมกันอย่างเงียบๆ

ก่อนจะกลับ ไกด์แนะนำให้พวกเราแว่ะเข้าไปชมถ้ำเสือ ด้านใน (อยู่ตรงหน้าหน้าทางเข้า)

พอขึ้นไปดู จะเห็น ปากถ้ำเล็กๆ (แต่เขาเอาประตูเหล็กกั้นไว้) ตรงนี้แหล่ะค่ะ ที่เป็นที่มาของชื่อวัด เพราะจากคำบอกเล่าว่ามีเสือเคยอาศัยอยู่บริเวณนี้ ตามหลักฐานก็บอกว่ามีลอยอุ้งเท้าเสือให้พบเห็นตามถ้ำด้วย

สุดท้ายไกด์พาแว่ะที่ร้าน โอทอปของเมืองกระบี่ ราคาพอใช้ได้ค่ะ ขนมที่เลื่องชื่อของกระบี่ก็คือ ขนมลา และ ขนมเค้กค่ะ ราคาที่นี่จะถูกกว่าสนามบินประมาณ 10-15 บาท ต่อกล่อง…

จบ ทัวร์วันนี้ โดยรวมโอเคค่ะ คนขับรถปลอดภัย มีน้ำดื่มเย็นบริการระหว่างทริป และกลับถึงโรงแรมประมาณ 4 โมงเย็นกำลังดี ก็ถือว่าทัวร์วันนี้ เป็น 1ใน 3 ทัวร์ที่พลาดไม่ได้ในกระบี่เช่นกันค่ะ

(วันที่เดินทาง 24 ธันวาคม 2556)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up