สุสานช่อนมาโช่ง (Cheonmachong) กับหอดูดาว ช่อมซองแด (Cheomseongdae)

เกาหลีได้รวบรวมอาณาจักรจนเป็นราชวงค์ซิลลาขึ้นใน พ.ศ.500 (เอาเลขกลมๆ จะได้จำได้ง่ายๆ) และมีความเจริญยาวนานต่อเนื่องกันเป็นเวลา 900 กว่าปี

เมืองคยองจูถือเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ซิลลา เป็นศูนย์กลางความเจริญในยุคสมัยนั้น การมาเมืองคยองจูนั้นก็เพิ่มชื่นชมกับโบราณสถาน วัด วัง ของยุคสมัยนั้นค่ะ

เริ่มที่สุสานช่อนมาโช่ง ให้สังเกต Starbucks นี้แสดงว่ามาถูกที่ แนะนำให้จอดรถหน้าสุสานฯ ซึ่งมีค่าเข้าจอดประมาณ 2000วอนค่ะ

สุสานช่อนมาโช่ง เป็นหลุมฝังศพ ของพระมหากษัตริย์ เชื้อพระวงศ์ และทหารระดับสูงในยุคสมัยซิลลา

โดยที่ฐานของหลุมศพ เขาทำเป็นห้องไม้ แล้วนำพระศพฯ ใส่ในห้องไม้ พร้อมกับของมีค่า จากนั้นจึงจะเอาดินถมให้เป็นเนินขึ้นมาแล้วก็ปลูกหญ้าทับ มองแล้วคล้ายๆ เนินดิน หรือภูเขาน้อยๆ ในบริเวณนี้มีหลายเนินดินเต็มไปหมด

หลักการสร้างหลุมสุสานเหล่านี้คล้ายๆ กับพิระมิดในอียิปต์โดยมีความเชื่อที่ว่า เมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะกลับเข้าสู่ร่างได้

เนินดินสุสานทั้งหลายแต่ละเนิน จะสูงใหญ่ต่างกัน แต่ก็สูงมากๆ และกระจายทั่วไป บางเนินจะมีลักษณะเป็นเนินแฝด ที่เขามีคิดว่าใต้เนินดินนั้นจะมีทางเดินเชื่อมถึงกัน

แต่ละหลุมฯ หรือแต่ละเนินศพ นั้นมีอายุไม่ต่ำกว่า 2000ปีเลยค่ะ

เมื่อเข้ามาในด้านใน สุสานช่อนมาโช่ง ซึ่งเป็นสุสานขนาดใหญ่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ150เมตร สูงประมาณ 13เมตร (เอาตัวเลขแบบจำง่ายๆ ก็พอนะคะ) รัฐบาลเกาหลีฯเพิ่งมีการขุดเข้าไปด้านในเมื่อประมาณ 20-30ปีที่แล้ว พร้อมขุดพบของมีค่ามากมาย โดยเฉพาะมงกุฎทองคำ และสิ่งของมีค่ามากมาย สุสานฯนี้เป็นสุสาน (เนินดิน)เดียวที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้านในได้

สุสานนี้จะอยู่ใกล้กับประตูทางเข้า/ทางออกด้านหลัง ที่ติดกับถนน Sajeong-ro ซึ่งถนนนี้แหล่ะค่ะ มีของทานอร่อยๆ เต็มไปหมด จะเลือกออกทางด้านหลังนี้ไปทานอาหารต่อ หรือ กลับไปออกด้านหน้าเพื่อไปหอดูดาวก่อนก็ได้ค่ะ

ก่อนอื่น…ถ้ามาคยองจู แล้วไม่ทานขนม ฮวางนัมปัง หรือ ขนมอบไส้ถั่วแดง โดยเนื้อแป้งทำจากแป้งข้าวบาเล่ย์ และอีกแบบเหมือนขนมที่โดราเอมอนชอบทานทั่วเมืองมีแต่ร้านขนมนี้เต็มไปหมดเลยค่ะ (ถ้าอ่านภาษาเกาหลีออก จะเห็นเต็มไปหมดเลยค่ะ)

เดินข้ามฝั่ง (ตรงข้ามของสุสานฯ) จะเป็นหอดูดาวแห่งแรกอันเก่าที่สุดในภูมิภาคเอเซียเลย โดยสร้างในปี พ.ศ 1175 ซึ่งตรงกับสมัยทาราวดีที่บ้านเรา เราจะเห็นรูปหอดูดาวนี้ตามป้ายหรือแม้แต่บนกล่องขนมในเมืองคยองจู คล้ายๆ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองเขาเลยค่ะ

หอดูดาวนี้ ใช้หินในการก่อสร้างเพียง 365 ก้อน เพราะเท่ากับจำนวนวันใน 1 ปีพอดี

ด้านในจะกลวงหมดเลยค่ะ โดยนักดาราศาสตร์จะปีนเข้าไปในช่องสี่เหลี่ยมๆ ที่เราเห็นแล้วมุดเข้าไปข้างในเพื่อปีนขึ้นไปด้านบน…แต่หอดูดาวนี้สูงแค่ 9 เมตรเองนะคะ จะเห็นดาวได้? หรือว่าสมัยก่อนฟ้าไม่สูงเท่าสมัยนี้ หรือ เขาดูได้จริงหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถมีใครตอบได้…รู้แต่ว่า สมัยนั้นมีคนคิดสร้างหอดูดาวด้วย ก็ไม่ธรรมดาแล้วค่ะ…

ที่นี่ไม่มีค่าบริการ เพราะถ้าเสียค่าเข้าชมอาจจะเครียดได้ เพราะเข้าไปก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เป็นเพียงแค่หอดูดาวตั้งตะหง่านให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป แม้ว่าสวนรอบๆ (Forest) จะกว้างใหญ่ไพศาล รู้สึกว่าเขาจะเน้นเดินเอามัน หรือ เดินออกกำลังกันนะคะ

แต่ถ้าจะเอาแบบชิวๆ แนะนำ ให้เช่ารถจักรยานปั่นนะคะ ค่าเช่าน่าจะประมาณ 5000 วอน ต่อสองชั่วโมงค่ะ (ขึ้นอยู่กับรถจักรยานที่เราเลือกด้วยนะคะ)

อย่าลืม ว่าที่นี่ (ด้านหลังสุสานช่อนมาโช่ง) นั้นมีถนนสาย Sajeong-ro มีอาหารอร่อยมากมาย ยิ่งปัจจุบันเหมือนแต่ละร้านเขาทำแข่งกันเอาใจวัยรุ่นชาวเกาหลีด้วยค่ะ เพราะมีหลายๆ ยูทูปเบอร์มาที่นี่เพื่อทำ vlog แข่งกันค่ะ และเราก็ตามน้องๆ เหล่านั้นมาลองอาหาร โดยเราเลือกร้านอาหารญี่ปุ่นกึ่งเกาหลี ที่ร้านฮวางนัมกา (หน้าร้านหายากมาก เพราะป้ายเล็กมาก)

ร้านนี้เป็นเซ็ตเมนู มีทั้งเนื้อย่าง และ เนื้อปลาแซลมอน ที่เลือกร้านนี้ไม่มีอะไรเป็นพิเศษแค่วันนี้อยากกินปลาค่ะ แต่ก็สั่งเนื้อย่างชุดเล็กมาให้คุณผู้ชาย…

รวมๆ แล้วก็ปานกลางค่ะ เนื้อ กับ ปลาแซลมอน ก็สดดี แต่ซุป เย็นและชืด ส่วนไข่ตุ๋น แข็งไปนิด… แต่ก็ดีกว่า เดินสุ่มๆ เข้าไปร้านใดร้านหนึ่งค่ะ…

ข้างๆมีร้านเบเกอรี่ จัดร้านน่ารักมาก และขนมดูน่าทานทุกอย่างเลยค่ะ

แต่เราเดินไปแถวๆ 7-11 ที่นั่นมีร้านไอศกรีมที่เราอยากทาน มีการปิดแผ่นทองทับบนไอศกรีมด้วย สนนราคาแท่งละ 7800วอนค่ะ แผ่นทองน้่นน่าจะทำมาเป็นพิเศษเพราะว่าหวานๆ หอมๆ เหมือนขนม ทานเสร็จแล้วเหมือนไปปิดทองฝังลูกนิมิตรมาเลยค่ะ เพราะว่าเปลวทองติดผมติดหน้าเต็มไปหมดเลย…

ฝั่งตรงข้าม 7-11 จะมองเห็นร้าน ที่คล้ายๆบ้านไม้ ที่นี่มีเนื้อปูผสมเนื้อไก่ทอด อร่อยมาก วันที่ไปมีสามรส เราเลือกรสซอสถั่วเหลือง อร่อยมากๆๆๆๆ มีเนื้อปูเยอะมากด้วย ขนาดกล่องเล็กประมาณ 6000วอนค่ะ นี่ถ้าได้ข้าวสวยร้อนๆ ทานด้วยกันสักถ้วย อร่อยอย่าบอกใครเลย

ถนนนี้ยัง มีร้านไก่ทอด ร้านแฮมเบอร์เกอร์มากมาย เรียกว่า มาหาอะไรทานที่นี่ไม่ผิดหวังนะ

นี่คือทัวร์ครึ่งวันในวันแรก แบบง่ายๆ ของพวกเราที่เมืองคยองจู พรุ่งนี้ไปวัดบุลกุกซา วัดซอกกุลราม ในตอนเช้า ส่วนตอนบ่าย ไปหมู่บ้านงานศิลป์ฯ พิพิธภัณฑ์เรื่องเพศ(สัมพันธ์) และวังโดงกุงที่มีสระน้ำอัลนัพจิ ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up