มาทำอะไรที่เมืองฮิวส์ตัน??? ฮิวส์ตันมีอะไร?
นึกยังไงถึงมาเขียนblog นี้เนี่ย? ทั้งที่รู้ว่า Houston Downtown ไม่ใช่สถานที่ที่สำหรับท่องเที่ยว (แต่คนไทยก็มาทำงานที่นี่กันเยอะ) ก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ตรงของพวกเราที่นี่ โดยเรื่องนี้ จะออกแนวเหมือนเขียนไดอารี่มากกว่า (ถ้าไม่ตรงจุดประสงค์ของผู้อ่าน ต้องขออภัยด้วยค่ะ)
ก็เมืองฮิวส์ตัน (Houston Downtown) มันมีอะไรที่ไหนล่ะค่ะ ร้อนก็ร้อน ตอนที่มาถึงอาทิตย์แรกนี่ 35องศาเซสเซียสเลย (กันยายน) ร้อนกว่าประเทศไทยอีกค่ะ แล้วตัวเมืองเขาก็แปลกๆ นะคะ ถนนทุกเส้นเป็นวันเวย์หมดค่ะ เรียกว่า ขับวน ทุกแยก! ผู้คนก็ไม่ค่อยมีบนท้องถนน (จริงๆ เขาลงไปเดินกันใต้อุโมงค์ค่ะ) แต่ที่เราเห็น มีแต่ตึกสูงๆ เต็มไปหมด เป็นตึกออฟฟิศ สำหรับคนทำงานค่ะ ไม่ใช่ตึกที่เป็นห้างฯ (มันน่าเบื่อก็ตรงนี้แหล่ะ นึกว่ามาอยู่ในเมืองแล้วจะมีห้างสรรพสินค้ามากมายจนช้อปปิ้ง!!!) ชื่อถนนเขาก็จำไม่หวัดไม่ไหวค่ะ แต่ถ้าอ่านเรื่อง Remember Alamo ทำให้เราทราบว่า ชื่อถนนที่นี่ส่วนมากตั้งชื่อมาจากเหล่าฮีโร่ในครั้งศึกอลาโมค่ะ เลยทำให้จำชื่อถนนได้ไวขึ้น!
แต่เชื่อไหมค่ะ พอเริ่มสักอาทิตย์ที่ 2 เราก็เปลี่ยนใจไปชอบตัวเมืองฮิวส์ตันนี้แล้วอ่ะ อย่างน้อยก็ดีกว่านอนอยู่บ้านที่นิวออลีนส์ค่ะ
1. เริ่มที่ โรงแรม โดยพวกเราเลือกพักที่ Embassy Suites (Houston Downtown) by Hilton ถนน Dallas สาเหตุที่เลือก รร นี้คือ เอาน้องหมาเข้าพักด้วยได้ และอยู่ใกล้สวนสาธารณะ Green Discovery ที่ที่พวกเราพาน้องหมาเดินเล่นได้
ชีวิตระหว่างวันที่โรงแรม เรามีกันอยู่ระหว่างเรากับน้องหมา ไม่รู้จะออกไปไหน (ภาพประกอบ ดูเศร้ามาก 555)
ชีิวิตในโรงแรมก็คล้ายๆ กับอยู่หอ หาอะไรทำไปแก้เหงาไปพลางๆ รีดผ้าเอง เล่นโยคะเอง หาอะไรทำในห้องระหว่างวัน เรียกว่า2-3 วันแรก กร่อยมากและน่าเบื่อมาก แต่ก็พยายามสร้างความสุขให้ตัวเอง และน้องหมา…
จะอยู่ที่ไหน พื้นที่น้อยอย่างไร เราจะไม่เอามาเป็นข้ออ้าง ที่จะไม่ออกกำลังกาย หลังๆ เริ่มขยับขยายไปเล่นที่ฟิตเนสของโรงแรม ถึงแม้จะเล็ก แต่ก็ดีกว่าเล่นในห้องหน่อยนึง… อ้อ ที่ชั้นเดียวกันกับฟิตเนส มีสระว่ายน้ำ แต่เป็นสระขนาดเล็ก เหมือนสระแช่มากกว่าสระว่าย…
ถึงแม้ที่โรงแรมนี้จะเป็นห้องสวีททุกห้อง คือมีห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และห้องนอนแยกเป็นสัดส่วน ตอนแรกแอบดีใจเพราะเขาบอกว่า มีเค้าน์เตอร์สำหรับทำครัวด้วย แต่จริงๆ มีแค่ตู้เย็นเล็กๆ กับไมโครเวฟขนาดย่อมค่ะ…ก็พออุ่นอาหารทานระหว่างวันได้บ้าง
อาหารเช้าที่นี่เหมือนกันทุกวัน คือ เบคอน ไส้กรอก มันฝรั่ง ไข่ ขนมปัง ผลไม้ กาแฟ นม โยเกิร์ต ไม่มีสลัดบาร์ตอนเช้า ส่วนเราก็ กินซ้ำๆ ไป ประหยัดด้วย ขี้เกียจออกไปหาทานข้างนอกด้วย โดยเมนูอาหารเช้าเกือบจะเหมือนเดิมทุกวัน แต่ก็สด สะอาดดี อาหารเช้าเริ่มเวลา 6-9.30โมงเช้า บางวันกว่าเราจะวิ่งออกกำลังเสร็จ อาบน้ำ ก็เกือบอดทานอาหารเช้า เคยเดินลงไปทานอาหารตอน 9.20น. ขณะกำลังสั่งไข่เจียวเขารูดม่านปิดผ่านหน้าเราเลยค่ะ แอบตกใจ แล้วเราจะออกจากม่านยังไง!!! แหม จะรอให้เราสั่งเสร็จแล้วออกไปก่อนก็ไม่ได้ ส่วนตอนเย็นมีสลัดบาร์ให้ทานฟรีตอน 5.30น -7.30น.
ในห้องรวมๆ แล้ว สะอาด แต่เราเบื่อแม่บ้านแมกซิกันที่ทำเนียนชอบลืมให้น้ำเปล่าเรา เรียกว่าต้องเขียนโน้ต(เป็นภาษาแมกซิกัน)เตือนทุกวัน วันไหนไม่ทิ้งโน้ตไว้ อด ได้น้ำดื่มค่ะ บางทีเราก็ออกไปซื้อยกแพคมากันเลย หรือไม่เราก็แอบเอาขวดเปล่าไปกรอกน้ำที่ห้องฟิตเนส…
คิดว่าเขาใช้ตรรกะที่ว่า ถ้าเห็นว่ายังมีขวดน้ำแช่อยู่ในตู้เย็น แปลว่าไม่ต้องให้เพิ่ม แต่แหมเราอยู่ยาวนะคะ ไม่ใช่มาแค่สองวัน ให้ฟรีแค่วันละสองขวด ยังจะหวงอีก 555
หลังๆ เราเริ่มขยับขยาย ออกไปนอกโรงแรมมากขึ้น เลยทำให้รู้สึกดีขึ้นด้วย…
2. สวน Discovery Green สวนสาธารณะที่ห่างจากโรงแรม Embassy Suites ที่เราพักไปเพียงไม่กี่ก้าว ถ้าไม่มีสวนสาธารณะแห่งนี้ เราก็คงไม่เลือกอยู่โรงแรม Embassy Suites เช่นกัน
ดูจากแผนที่ก่อนตัดสินใจเลือกโรงแรม ตอนแรกเราคิดว่า เราจะไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าที่ Discovery Greenได้ จริงๆ ก็ได้ค่ะแต่ต้องวิ่งหลายรอบหน่อยกว่าจะห้ากิโลเมตร
แต่สวนนี้ ก็มีดีหลายอย่าง บางคืนก็มีคอนเสิร์ตฟรี และระหว่างวันก็ยังกิจกรรมฟรีๆ ให้ด้วย โดยเขาจะมีตารางกิจกรรมไว้หน้าสวนฯ หรือ สามารถเข้าไปดูที่เว็บไซต์ DiscoveryGreen.com เรายังเคยไปเล่นโยคะฟรีเลยค่ะ ก็สนุกดีค่ะ
*Free Yoga in the Park, Discovery Green 10/3/2016.
แต่ที่ดีสุดๆ คือ สวนDiscovery Green นี้ดีกับน้องหมาเรามากๆ เพราะต้องเข้าใจว่า น้องหมา มาอยู่กับเราในโรงแรมเป็นเดือนๆ อาจจะเกิดอาการเครียดได้ พวกเราพาน้องหมามาเดินเล่นวันละ 2-3 รอบ พอจะคลายความเครียดของเค้าได้บ้าง…
นอกจากจะพาน้องหมาเดินได้ทั่วสวนสาธารณะแล้ว ทางสวนยังจัดสถานที่พิเศษ ให้น้องหมาสามารถวิ่งเล่นอย่างอิสระโดยเขาจะทำรั้วกั้นเฉพาะให้ด้วยค่ะ
โดยสามัญสำนึกของฝรั่งเขาจะช่วยกันเก็บอุจจาระน้องหมาในที่สาธารณะกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว (ที่ไม่ปกติอ่ะคือเรา ดัดจริตและขยะแขยงทุกครั้งที่ต้องทำ 555) แต่ถ้าลืมไม่ได้พกถุง (ถุงเก็บอุจจาระ) ทางสวนฯ ก็ยังเตรียมจุดบริการฟรี สำหรับถุงเก็บอุจจาระน้องหมาให้รอบๆ สวนด้วยค่ะ ดีจริงๆ
และที่ขาดไม่ได้เลย สวนนี้ เขาว่ามี Pokémon เยอะด้วยค่ะ ตลอดเวลาจะมีผู้คนมาเดินจับ Pokémon กัน เสียดายตอนที่เราไปอยู่เรายังไม่มีมือถือก็เลยไม่ได้ลองจับ…
3. จากโรงแรมเรา (Embassy Suites) เดินแค่ 5 นาที ก็มีซุปเปอร์มาเก็ต Phoenicia Specialty Food ตอนแรกไม่กล้าเข้าค่ะ เพราะดูจากภายนอกเหมือนร้านอาหาร แต่พอเดินเข้าไป เขามีอาหารสด อาหารแห้ง เนื้อสด ผัก ผลไม้สด ขนม แถมยังมีสินค้าจากฝั่งไทย จีน ญี่ปุ่นขายด้วยนะคะ เราก็ได้ซอสหอยนางรมมาขวดหนึ่งจากที่นี่…
พวกเราฝากท้องไว้ที่นี่เลยค่ะ เพราะ อะไรๆ ก็อร่อย มีอาหารหลากหลาย พิซซ่าก็อร่อยทุกหน้า ยิ่งมี Lasagna ไก่อบ พวกเรานี้ทานกันทุกวัน เขามีบริการอุ่นให้ด้วยค่ะ
เมนูโปรดของเราคือ Kabab เนื้อ แป้งห่อนุ้ม นุ่ม แล้วเขาให้เนื้อมาเยอะมาก ห่อมาใหญ่มากด้วย สนนราคาประมาณ $8 ค่ะ ส่วนคุณผู้ชายก็ชอบขาแกะอบมาก (ขาใหญ่มากด้วย) บางวันก็มีเมนูปลา เนื้อ หมู เพิ่มอีก มาช่วงพักเที่ยงหรือช่วงเย็น นี่ต่อแถวยาวเลยค่ะ
ที่นี่ขายกันเกือบทั้งวันทั้งคืนขาย (ปกติจะเปิดราวๆ 9-10โมงเช้า และปิดประมาณตี2) นอกจากจะทำกันสดๆแล้ว ยัง อร่อยด้วย ราคาก็สมเหตุสมผล อีกทั้งมาที่เดียวได้ครบ ทั้งอาหารสด อาหารแห้ง
ยิ่งสลัดบาร์ ของเค้าอลังการมากๆค่ะ อยากมีซุปเปอร์มาเก็ตแบบนี้ที่บ้านเราจริงๆ
ขนมเบเกอรี่มีมากมายให้เลือก ขนมอันเป็นที่โปรดปรานพวกเราคือ Lemon Tart ถึงเนื้อถึงครีมสุดๆ เรียกว่าอร่อยเข้มข้น และ อ้วนเร็วมาก ถ้าไม่ยับยั้งชั่งใจ พวกเราฝากท้องไว้ที่นี่ประจำค่ะ ข้างๆ ร้าน เขามีก็ที่นั่งสำหรับให้ซื้อแล้วนั่งทานได้ และยังมีโซนร้านอาหารด้วยค่ะ แต่พวกเราชอบซื้อกลับไปทานกันที่โรงแรมมากกว่า
เบียร์ ไวน์ น้ำดื่ม ก็มีหลากหลาย เรียกว่า มาที่นี่ที่เดียว ได้ครบทุกอย่างเลยค่ะ เขายังมีชั้นสองด้วย สินค้าเยอะมากจริงๆ เราว่าการที่โรงแรม Embassy Suites อยู่ใกล้ๆ Phoenicia นั้นถือว่าเป็นโชคดีของพวกเราจริงๆ ค่ะ
เว็บไซต์ Phoeniciafoods.com (ระหว่างถนน Austin / Lamar หรือ Austin/McKinney)
4. และแค่ข้ามถนนจาก Phoenicia ก็คือ ตึก Houston Center ซึ่งมีร้านค้า ร้านอาหารอยู่ข้างใน ที่เขาเรียกว่า The Shops in Houston Center ตอนแรกเราดีใจมาก เพราะเขาบอกว่าที่นี่เป็นที่ช้อปปิ้งยอดนิยมอันดับนึงใน Downtown แต่พอไปถึง ส่วนมากเป็นร้านอาหารค่ะ
ร้านอาหารที่นี่ดูน่าทานไปหมด แต่เปิดให้บริการ 10โมงเช้า ถึงประมาณบ่าย3-4โมงเท่านั้น แต่มีอาหารหลากหลายค่ะ อาหารไทย อาหารจีน อาหารแม็กซิกัน เบอร์เกอร์ หรือแม้แต่ Chick Fill A และ Starbucks
ถ้ามาช่วงเที่ยงๆ คนเพียบ แต่ถ้ามาหลังบ่ายโมงไปแล้ว จะเงียบๆ ค่ะ
อาหารอื่นสั่งทานไม่ค่อยเป็น ที่นี่เราเลยชอบทานอาหารจีนแทน Wok & Roll ร้านนี้อร่อย คล้ายๆ Panda Express
ส่วนร้านอาหารไทยที่นี่ก็มีนะคะ ชื่อ Thai Basil กลิ่นหอมฉุนดั่งอาหารไทยต้นตำรับ แต่เราไม่มีโอกาสทานเลยค่ะ ส่วนมากจะเป็นเมนูง่ายๆ เช่น ข้าวผัดกระเพรา ผัดซีอิ๊ว ผัดไทย ฯลฯ จริงๆ ก็อยากลองนะ
นอกจากนั้นยังมีร้าน Gift Shops หรือร้านขายของที่ระลึกของTexas, Houston และร้าน Hallmark, ร้านขายยา, ร้าน GNC ฯลฯ
ร้านเสื้อผ้ามีอยู่ร้านเดียวคือ Dressbarn แต่ราคาไม่ได้เอาไว้ใส่เล่นๆ เราเลยแค่เดินผ่านๆ ชั้นบนมีฟิตเนสด้วย แต่ดูไฮโซเกินไป เราเลยไม่สนใจ ที่นี่เลยเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่นี่ ตึกนี้สามารถเดินผ่านอุโมงค์มาถึงได้ด้วย
เว็บไซต์ Shopsathc.com
5. Houston Underground Tunnels! จากที่เกริ่นๆ ไว้ ว่าที่ตึก Houston Center นั้น เรายังสามารถทะลุทะลวงต่อลงไปใต้ดินได้ (ที่ชั้น G หน้าร้าน Tejas Grill Sport Bar) โดยอุโมงค์นี้เชื่อมต่อไปยังอุโมงค์สายอื่นๆ ซึ่งก็จะทำให้ผ่านใต้ตึกแต่ละตึกไปจนเกือบทั่วใจกลางเมือง(Downtown)ค่ะ
เพราะสภาพพวกเราตอนอาทิตย์แรกๆที่มาอยู่ในเมืองฮิวส์ตัน ใช้ทั้งร่ม ทั้งหมวก ทั้งแว่นตากันแดด ยิ่งเรานี่ทากันแดดแบบสำหรับไปเที่ยวทะเลเลย ร้อนมากจริงๆ
โชคดีที่เจอเพื่อนเก่าจากเมืองไทย (วูฟกัง กับ อ้อ) ที่มาอยู่และมาถึงฮิวส์ตันก่อน บอกพวกเราว่า ที่นี่ว่ามีอุโมงค์นะ
ว่าแล้วเชียวว่าทำไมไม่ค่อยเห็นคนเดินบนถนนสักเท่าไร ลงมาเดินกันใต้อุโมงค์กันหมดนี่เอง อาทิตย์ต่อมาเราเลยสบายขึ้นเพราะไปเดินใต้อุโมงค์ แต่คุณผู้ชายไม่ค่อยชอบเดินใต้อุโมงค์ เพราะว่าเดินอ้อมมาก และหลงง่ายถ้าไม่ชำนาญทาง คลิกดูแผนที่: Downtown Above & Below Map [pdf]
แต่ตอนแรกพูดถึงอุโมงค์ ดูเหมือนจะน่ากลัว กลับตรงกันข้ามที่นี่เขาติดแอร์ สะอาด มีร้านค้า ร้านอาหารตลอดทาง และทะลุจากตึกหนึ่งสู่ตึกหนึ่ง ร้านอาหารใต้อุโมงค์มีเยอะมากเยอะกว่าที่เราเห็นบนบกอีก และมีหลายหลากมาก อาหารจีน อาหารอินเดีย โดนัท คุกกี้ ฯลฯ
จุดลงอุโมงค์ที่ใกล้เรามากที่สุดคือ ที่ตึก Houston Center (ทางเข้าตรงหน้าถนน San Jacinto) หน้าร้าน Tejas Grill Sport Bar
เดินลงบันไดเลื่อนลงไปแล้ว เราจะเดินตามอุโมงค์สายสีเขียว เจอร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านของชำร่วยมากมาย ร้านทำเล็บ ร้านตัดผมท่านชาย และเดินต่อเนื่องไปที่ที่เราโปรดปรานมากก็คือเดินไปถึง McKinny Tunnel
หรือ สามารถจะลงตรงไปใต้ดินที่ CVS หรือ ที่ ฝั่งตรงข้าม CVS ที่ Mc Kinney Place ข้างๆ ร้าน Payless’s shoes ตรงที่ถนน Main ตัดกับถนน Mckinny เดินไปทางที่อุโมงค์ตรงที่อุโมงค์สีฟ้า ตัดกับสีเขียว ตรงนี้คล้ายฟูดคอร์ทเลยค่ะ มีร้านอาหารหลากหลาย ) อาหารไทย กับอาหารสไตล์ Cajun ก็มีค่ะ
บอกแล้วว่ามีร้านอาหารเยอะมาก เยอะกว่าบนบกอีก
ร้านอาหารแต่ละร้านใต้อุโมงค์ เปิดประมาณ 9โมงเช้า ถึง ประมาณบ่าย 2โมงเท่านั้น (แถมส่วนใหญ่ปิดวันเสาร์ อาทิตย์ด้วยค่ะ) อย่างที่บอกส่วนใหญ่เป็นใต้ตึกที่คนทำงานหรือพนักงานออฟฟิสอยู่กัน
การเดินเล่นใต้อุโมงค์ สองวันแรกก็ตื่นเต้นดี เพราะบนบกไม่มีอะไรให้เราทำแล้ว เวลาเดินใต้อุโมงค์อย่างเรานี่ต้องพกแผนที่ตลอด หลุดจากแผนที่เมื่อไหร่ เดินวนเป็นเขาวงกตเลยค่ะ ขาแทบหลุด 555
และบางช่วงต่อของตึก ก็ไม่มีร้านค้า เป็นแค่ทางเดินอย่างเดียว แต่อย่างไรเสีย ต้องขอบคุณ วูฟกัง กับ อ้อ อีกครั้งที่บอกเราเรื่องอุโมงค์ใต้ดินที่ฮิวส์ตัน เดินสนุกดีค่ะ
อาหารไทย Time for Thai คล้ายๆ ร้านข้าวราดแกง เราลองทานผัดกระเพรากับแกงแพนงไก่ ใช้ได้เลยนะคะ คนขายที่นี่เป็นคนไทยค่ะ เขาบอกว่า พวกแกงจะมีเหมือนเดินทุกวัน แต่ผัดๆ จะเปลี่ยนเมนูบ้าง ร้านจะเปิดประมาณ 10โมงเช้า ถึงบ่าย2โมงและหยุดทุกวันเสาร์อาทิตย์ค่ะ ข้าวกะกับสองอย่างราคารวมภาษีแล้วประมาณ $8 หรือ ประมาณ 280 บาท ค่ะ (ก็ราคาประมาณนี้แหล่ะค่ะ อาหารจีน อาหารไทย หรือ อาหารแม็กซิกันที่นี่)
เดินเรื่อยๆ ในอุโมงค์มีหลายร้านอาหาร คือสรุปร้านอาหารในอุโมงค์มีเยอะกว่าบนถนนเลยค่ะ มิน่าล่ะ เราไม่ค่อยเห็นคนเดินบนถนนที่นี่สักเท่าไร…
ปล. Houston นั้น จะออกเสียง ฮุสตั้น หรือ ฮูสตั้น เราไม่ทราบแน่ แต่ว่าถ้าออกเสียงแบบนั้น คนที่นี่จะฟังไม่เข้าใจ และจะโดนล้อประจำ จริงๆ จะต้องออกเสียงแบบ “ฮิวส์ตัน” น่าจะใกล้เคียงและถูกต้องกว่าค่ะ
อ่านต่อ เขามาทำงาน แล้วเรามาทำอะไรที่ Houston Downtown? (ตอนที่2)