แบบฉบับ ออกเดินทางจาก กทม เย็นวันศุกร์ แว่ะพักนอนจันทบุรีก่อน เช้าค่อยออกเดินทางต่อไปตราด แว่ะฟาร์มปูนิ่ม(ทางผ่าน) ก่อนไปขึ้นเรือเฟอรี่ที่อ่าวธรรมชาติ
พวกเราขับรถออกจาก กทม ประมาณ4โมงเย็น วิ่งเข้ามอเตอร์เวย์ ตอนแรกก็ขับมาเรื่อยๆดี แต่พอเลี้ยวเข้าแกลงปุ๊ป รถติดหนักมาก ถนนก็ไม่ดี มากี่ปีก็เห็นถนนเป็นแบบนี้ ผ่านตรงนี้ได้ก็วิ่งยาวเพื่อผ่านระยองและเข้าจันทบุรี ใช้เวลาเดินทาง สามชั่วโมงครึ่ง
แว่ะนอนกันที่จันทบุรีนี่แหล่ะ ครั้งนี้เราพักที่จันท์พระยารีสอร์ท ด้วยสโลแกนแบบขาลงของพวกเราที่ว่า ห้องพักหลักร้อย จะได้มีเงินเก็บหลักล้าน!!!
รวมๆแล้ว ดีเลยค่ะ เรียกว่าคุ้ม เราเคยพักมณีจันทร์คืนละสามพันกว่าบาท รีสอร์ทที่เขาว่าดีที่สุดในจันทบุรีแต่โดยรวมสวยอย่างเดียว แต่บริการกับอาหารเช้างั้นๆ สู้ที่นี่ไม่ได้เลยค่ะ อาหารเช้าเขาก็ดูแลพวกเราอย่างดี แขกฝรั่งเขาก็มีไข่ดาว ไส้กรอกให้ แขกคนไทยก็มีข้าวต้มบริการค่ะ เราพักห้องปูนใหญ่ 950บาท ส่วนคนขับรถเราจองบ้านไม้เล็กให้ คืนละ750บาท ไปๆมาๆ เรา ชอบบ้านไม้มากกว่าเพราะประตูไม้ดูแน่นหนา ส่วนบ้านปูนของเราประตูบานเลื่อนกระจก เพราะมีปัญหาประตูล็อคไม่อยู่ แต่ช่างเขาก็พยายามซ่อม(ทั้งคืน) และมีข้อเสียอย่างนึงคือ ทีวี ต้องเปิดและปิดที่เครื่อง จะเผลอหลับต้องลุกไปปิดนี่สิ (ออกแนวขี้เกียจสุดๆ) สรุปโดยรวมเรียกว่าดีเลยค่ะ ราคานี้ บริการแบบนี้ ขนาดเราออกแนว ดจร นิดหน่อยยังอยู่ได้ คนอื่นก็อยู่ได้สบายค่ะ แถมที่ตั้งรีสอร์ทก็อยู่ในตัวเมืองจันทบุรีด้วย
จากที่พักนี้เราไปทานอาหารเย็นกันที่จันทรโภชนา โดยขับรถเพียง 15นาทีเอง ซึ่งร้านจะเปิดถึง 3ทุ่มนะคะ
ร้าน “จันทรโภชนา” เป็นร้านที่มีชื่อเสียงและถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดจันทรบุรีเลยค่ะ เพราะอาหาร อร่อย ดี สะอาด แถมราคากันเองด้วย โดยทางร้านจะนำผลไม้ขึ้นชื่อของจันทบุรีมาใส่ประกอบเมนูทำให้รสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร เช่น มัสมั่นทุเรียน ปลาต้มระกำใส่กระวาน ฯลฯ เราลองกัน 3-4เมนู คือ (1) ปลาต้มระกำใส่กระวาน นับว่าไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ (2) เส้นจันท์ผัดปู (3) แกงหมูชะมวง และที่อร่อยจนถ่ายรูปไม่ทันคือ ผัดเหลียงอินทรีย์ผัดไข่ และ ปูนิ่มทอดกระเทียม และข้าวผัดกุ้ง
ลืมบอกว่าเราทานกันสามคน และรายการอาหารดังกล่าวของเรา พร้อมเบียร์และน้ำอีก ราคาอาหารมื้อนี้เพียง 940 บาทเองค่ะ โอย อยากให้ร้านนี้มาอยู่ใกล้ๆ บ้านจัง จะได้ทานกันทุกวัน 555
นอกจากนี้ทางร้านยังมีของฝากของขึ้นชื่อของทางจังหวัดขายด้วย โดยเฉพาะขนมและอาหารแปรรูปที่มีส่วนผสมของทุเรียนให้เลือกซื้อกันหลากหลาย เราซื้อปังกรอบทุเรียนกลับไปฝากเพื่อนที่ออฟฟิศ อร่อยติดใจกันงอมแงมเลยค่ะ
ทางร้านยังภูมิใจขาย ไข่ไก่อารมณ์ดี ที่มีไข่แดงโตกว่าไก่ฟาร์มอื่น เพราะเขาเปิดเพลงให้แม่ไก่ฟังค่ะ แม่ไก่ที่นี่จึงอารมณ์ดีและไข่ออกมาเป็นไข่อารมณ์ดีนี่แหล่ะค่ะ อิ่ม อร่อย อารมณ์ดี กลับไปนอน พรุ่งนี้เช้าเดินทางไปเกาะช้างต่อค่ะ
พอเช้า เราออกจากจันท์ ตรงสู่ตราดประมาณ 8โมงเช้า ผ่าน อ.ขลุง ตั้งใจมาว่า ต้องแว่ะฟาร์มปูนิ่มให้ได้ แล้วค่อยไปตราดต่อ เพื่อขึ้นเรือเฟอรี่ที่อ่าวธรรมชาติ แล้วเกาะช้างก็ไม่ไกลเกินฝันแล้วเจ้าค่ะ
เห็นรีวิว ร้านฟาร์มปูนิ่ม มาเนิ่นนาน ปกติไม่ชอบดั้นด้นไปกินอะไรยากๆ แต่ครั้งนี้ คือ พวกเราชอบทานปูนิ่มมากๆ เลยยอมค่ะ
ขับรถตรงเข้า อ.ขลุง ทางไปตราดนั่นแหล่ะ อำเภอนี้ยังอยู่ในจันทบุรีนะ จริงๆมาขึ้นเขาคิชกูฎก็แว่ะมาได้ ไม่ไกลจากตัวเมืองจันทบุรีมาก แค่ 20นาทีมั้ง ร้านเปิด 9โมงเช้า – 6โมงเย็นโดยประมาณ ก่อนมาโทรมาเช็คก็ดีค่ะ เผื่อบางวันร้านปิด…
มาถึงท่าเรือฟาร์มปูนิ่มเจอก็โทรฯตามเรือเลยนะคะ เขาจะเอาเรือมารับ โทรปุ๊บมารับปั๊บค่ะ เขาไม่รอจำนวนคน แถมฟรีอีกด้วย
เฮ้ย ชอบนะ ได้นั่งเรือชมวิวด้วย รอบๆ ที่เห็นทุ่นขวดน้ำพลาสติกนี่คือฟาร์มหอยนางรมของคนพื้นที่ค่ะ
นั่งเรือชมวิวแค่ 5-10นาทีก็ถึงร้านฟาร์มปูนิ่มค่ะ ร้านใหญ่โต กว้างขวางกว่าที่เราคิดค่ะ โต๊ะทานอาหารก็ใหญ่มาก (คือเราต้องยืนกินอ่ะค่ะ ไม่งั้นเอื้อมไม่ถึง!)
เราสั่งพรวดเดียวเลย คือ …
(1) ปูนิ่มทอด
(2) ปูนิ่มผัดผงกระหรี่ อันนี้แนะนำเลย กินเหอะ อร่อยมากกกกก
(3) หอยนางรมสด ชุดละ 60บาท คือตอนสั่งบอกเขาเอาคนละ2ชุด คนขายตกใจ บอกว่าเขาแค่ชุดเดียวก็พอ เรานึกว่าชุดละตัว เพราะเห็นราคาแค่60บาท แต่พอเอามาเสิรฟ คือ เห็นแล้วร้อง เยอะมาก!
(4) ปูนิ่มนึ่งมะนาว
(5) ปูนิ่มแช่น้ำปลา (น้ำปลาจริงๆ เราต้องขอน้ำจิ้มซีฟูดโรยเพิ่ม)
ส่วน(6)คนขับรถเขาขอสั่งยำรวมมิตรทะเลเพิ่ม (เขาคงงง ทำไมเราสั่งแต่ ปูนิ่มกะหอยนางรม)
ก็ที่เห็นเราสั่งแต่ปูนิ่มกะหอยนางรมอย่างนั้น ไม่ต้องตกใจ เพราะพวกเราชอบกินมันจริงๆค่ะ แต่ทางร้านเขายังมีอาหารรายการอื่นอีกมากมากด้วย กุ้ง หอย ปู ปลา (ปลากระพง,ปลาเก๋า) ปลาหมึก ฯลฯ
เห็นรายการอาหารของพวกเรามื้อนี้แล้วสรุปราคาทั้งสิ้นเพียง 1,065 บาทค่ะ คุ้มค่าสุดๆ คู่ควรกับการแว่ะมาทานเป็นครั้งแรกของพวกเราจริงๆค่ะ (แต่รสชาดทางร้านเค็มไปนะสำหรับเรา)…
ด้านหลังร้านยังมีปูนิ่มเป็นๆ ให้เราจับและดูด้วยค่ะ มันทั้งใหญ่และนิ่มจริงๆ
นอกจากนั้น เขายังมีบ่อปลาช่อนยักษ์ (Grouper) ให้นักท่องเที่ยวซื้ออาหารไปเลี้ยง(ปลาทูเน่าๆ) และชมความใหญ่ยักษ์ของปลาช่อนในบ่อนี้ด้วยค่ะ สนุกดี เมื่อพร้อมกลับ ก็แจ้งทางร้านได้เลยนะคะ ว่าขอเรือไปส่งฝั่งหน่อย มาก็ฟรี กลับก็ฟรี เสียเงินแต่ค่าอาหาร ดีจริงๆ ค่ะ
Dark List: I’m NOT impressed! เราว่าเราไม่ประทับใจ
จริงๆมีร้านรีสอร์ทและร้านอาหารอีกที่หนึ่ง ที่เว็บรีวิวดังๆ เขาจะเขียนว่า ถูก ดี และ วิวสวยมาก ในจันทบุรี (ไม่รู้ว่า เขาเขียนแล้วเขาเคยไปด้วยหรือเปล่า???) แล้วเราก็อุตส่าห์แว่ะไปตอนขากลับจากเกาะช้าง นอกจากเสียเวลาแล้ว ยังเสียใจอีกด้วยค่ะ เพราะว่า อาหารแพง (ถ้าเทียบกับสองร้านที่กล่าวมาข้างบน) และช้ามาก จานสุดท้ายมาเสิร์ฟตอนที่กินทุกอย่างหมดแล้วและต้องนั่งรอ(นั่งให้อาหารปลารอ) ยกเลิกก็ไม่ได้ เขาบอกว่าทำไปแล้ว แถมไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ที่รองจาน หรือ จานอาหาร ดูเหมือนจะผ่านศึกสงครามมายาวนาน มีขาเป็ดอบหมี่ ที่รอบจาน มีแต่สนิม มองไปที่ห้องพักของเขาก็ดูทรุดโทรม โชคดีที่เราจองไม่ทัน 555
ไม่ขอเอ่ยนามออกสื่อ เพราะเราไม่มีได้มีเจตนาไม่ดี แต่อาจจะต่างคนต่างสไตล์ เราอาจจะชอบอาหารฟาร์มปูนิ่ม กับ ร้านจันทร์โภชนา และที่พักที่จันท์พระยารีสอร์ทมากกว่า…
กลับมาต่อเรื่องของพวกเรา หลังจากอิ่มพุงกาง ก็กลับขึ้นแล้วพวกเราก็ตรงดิ่งไปกัมพูชา เอ้ย ตราดค่ะ (ทางเดียวกันเลย!)
จากอ. ขลุง ตรงไป ท่าเรือ อ่าวธรรมชาติใช้เวลาเพียง 30-40นาทีค่ะ ส่วนที่พักที่เกาะช้างเราได้เลือกไว้แล้วคือ กจาปุรีรีสอร์ท แอนด์ สปา ตามไปอ่านกันเลยนะคะ
แต่สำหรับใคร อยากจะมาพักที่จันท์พระยารีสอร์ทแห่งนี้แบบพวกเราหรืออาจจะดูเป็นที่พักอื่นๆในจันทบุรีก็ได้นะคะ หากไม่สะดวกหาเอง ไม่รู้จะจองที่ไหน แนะนำหาที่พักในจันทบุรีได้ที่ Traveloka ได้ค่ะ เขามีที่พักให้เลือกเยอะดี ทั้งแบบบ้านพัก รีสอร์ท หรือ โรงแรมหลายดาวราคาก็ไม่แพงมาก ประหยัดงบ จะได้เหลือ budget ไปกินไปช้อป กันเยอะๆ
