(English – soon!) วันนี้ วันเบาๆขอเที่ยวรู้จักภูเก็ตสักวัน ด้วยทัวร์รอบเมืองหรือซิตี้ทัวร์เมืองภูเก็ตกันค่ะ พวกเราเช่ารถแท็กซี่กันเอง โปรแกรมทัวร์ก็เลือกเฟ้นกันมาเอง โดยจะไปทานข้าวที่ร้านระย้าในตัวเมืองภูเก็ต ก่อนจะแว่ะนมัสการหลวงพ่อแช่ม ที่ใครๆ ก็ว่า ถ้ามาเที่ยวเมืองภูเก็ตแล้วไม่ได้มาสักการะบูชาหลวงพ่อแมก็เหมือนกับไม่ได้มาภูเก็ต!
จากนั้นก็แว่ะอีกวัดค่ะ พลาดไม่ได้เลย วัดหลวงพ่อโต หรือ Big Buddha ต่อด้วยไปชมจุดชมวิวที่แหลมพรหมเทพ จุดชมวิวนี้เขาว่าเห็นพระอาทิตย์ตกน้ำที่สวยที่สุดในภูเก็ต แถมโปรแกรมสุดท้ายของวัน เป็นโปรแกรมที่สำคัญมากๆ ก็วันนี้เป็นวันเสาร์ ถ้าไม่ไปตลาดคนเดินที่จะมีเฉพาะเสาร์อาทิตย์เท่านั้นก็เสียดายแย่เลยค่ะ
เริ่มกันตรงที่หารถจ้างนี่แหล่ะ ถ้าไปแถวๆ หาดป่าตองมีรถแท็กซี่ รถตุ๊กตุ๊ก หรือรถรับจ้างเพียง แต่เราโชคดีที่ขอเบอร์โทรพี่แท็กซี่ไว้เมื่อตอนวันมาจากสนามบิน ก็ราคาพี่แท็กซี่คนนี้เขาสมเหตุสมผล และใจดีกว่าเยอะค่ะ โดยราคาเหมาทั้งวัน(แบบไม่เร่งรีบเลย)คือ 1,500 บาทค่ะ เฉลี่ยก็คนละ 750 บาทเองค่ะ
เริ่มทัวร์ก็เริ่มหิวเลย แค่ขับรถออกมาจากป่าตอง ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงตัวเมืองภูเก็ต เลยไม่ต้องแปลกใจที่เราจะขอเริ่มทัวร์ด้วยอาหารร้านดังของชาวภูเก็ต ร้านระย้า
ร้านระย้า เป็นบ้านเก่าที่ดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร เป็นตึกขนาดใหญ่ 2 ชั้น นี่ถ้ามาเองก็คงไม่กล้าเดินเข้ามาเอง เพราะว่าไม่เหมือนร้านอาหารเลยค่ะ เหมือนบ้านอยู่อาศัยทั่วๆไป แต่เขายังคงรักษาความเป็นโบราณและดั้งเดิมๆ ของบ้านหลังนี้ไว้ดีมากๆ
ว่ากันว่า ถ้ามาทานที่ร้านระย้านี้แล้ว เป็นอันสั่งเมนูทีเด็ด3 อย่างนี้ “เส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพลู”, “หมูฮ้อง” และ “”น้ำพริกกุ้งเสียบ”
แต่วันนี้พวกเราก็อิ่มมาจากโรงแรมพอสมควร ก็เลยขอลอง เส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพลู, กุ้งทอดกระเทียม, ยำผักกูด, ซีฟู้ดตระกร้า แค่นี้ก่อน ก็บอกแล้วค่ะว่าเราอิ่มมาบ้างแล้ว…
โหย แต่ เจ้าเส้นหมี่แกงปูใส่ใบชะพลูนี่เด็ดดวงจริงๆ ค่ะ ตอนมาเสิร์ฟนี่เห็นเนื้อปูแล้วตะลึงมากๆ อะไรมันจะใหญ่ขนาดนี้!!! เห็นด้วยตาก็แทบกรี๊ดยิ่งพอทานเข้าไปด้วย นี่มันปูสดมากๆ ถึงมากที่สุด เพราะเนื้อปูมันหวานฉ่ำคล้ำคลึงกับน้ำแกงกะทิสีเหลืองอ่อนสูตรเฉพาะของทางร้าน เรียกว่าทานไปเพ้อไปเลยค่ะ อร่อยจริงๆ
ดูเอาเองเถอะค่ะว่าอร่อยขนาดไหน นี่ถ้าเลียถ้วยได้คงเลียไปแล้วจริงๆ
ส่วนเมนูอื่นๆที่เราสั่ง ก็ drop ลงไปเลยค่ะ พอใช้ได้ คิดๆ แล้วก็อยากกลับมาทานเจ้าแกงปูนี่อีก!
ไปต่อกันที่วัดไชยธาราราม หรือวัดฉลอง นมัสการหลวงพ่อแช่ม วัดนี้เป็นวัดที่มีชื่อเสียงเมื่อสมัยหลวงพ่อแช่ม อดีตเจ้าอาวาสวัดฉลอง ภูเก็ต ถึงแม้พระคุณท่านจะได้มรณภาพไปนานแล้วก็ตาม ชื่อเสียงและเกียรติคุณของพระคุณท่านยังตรึงตราตรึงใจอยู่ในความทรงจำของชาวภูเก็ต
เมื่อครั้งพระคุณท่านมีชีวิตท่านได้ให้กำลังใจชาวบ้านฉลองชนะกบฏอั้งยี่ จนมีผู้ศรัทธาและเลื่อมใสท่านมาก ถึงขนาดรุมกันปิดทองที่ตัวท่านจนแลดูเหลืองอร่ามไปทั้งร่าง นับเป็นความแปลกประหลาดมัหศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
นอกจากเราจะได้มามนัสการหลวงพ่อแช่ม (จำลอง) ที่วัดฉลองแล้ว บริเวณวัดยังเป็นที่สนใจกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ ที่ประดิษฐสถานของ พระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าในบริเวณวัด และเมื่อขึ้นไปข้างบนก็เป็นจุดชมวิวเมืองภูเก็ตที่สวยไม่แพ้จุดชมวิวอื่นๆ เลยค่ะ
มองไปสุดลูกหูลูกตาไกลๆ เห็นองค์พระใหญ่ องค์สีขาวเด่นเป็นสง่า ที่อยู่บนยอดเขา และเป็ฯพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในภูเก็ตไหมค่ะ นั่นแหล่ะค่ะเราจะไปต่อไปกันที่นั่น
องค์พระใหญ่ อยู่ไม่ไกลจากวัดฉลองค่ะ แต่ขึ้นไปบนภูเขา ระหว่างทางผ่านสวนนก และปางช้าง แต่เราไม่แว่ะค่ะ ตรงไปวัดพระใหญ่เลยค่ะ
พระใหญ่ หรือ พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี ได้รับการถวายพระนามจาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พร้อมตราตั้ง ให้เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต บริเวณสถานที่ประดิษฐานพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี จัดให้เป็นพุทธอุทยาน ให้มีความร่มรื่น สวยงาม เพื่อจะได้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจซึ่งเหมาะแก่การนั่งวิปัสสนา เป็นอย่างยิ่ง โดยระหว่างทางนั้นจะมีจุดชมวิวทิวทัศน์มุมสูง ของหาดราไวย์สวยงามเป็นอย่างมาก ระหว่างที่ขึ้นไปยังเขานาคเกิดสองข้างทาง จะเป็นป่าไม้อยู่เป็นระยะร่มรื่น สลับกับจุดชมวิวเป็นช่วงๆ
ปัจจุบันพระพุทธรูปมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ตในกลุ่มนักท่องเที่ยว หากคุณมีโอกาสมาเยือนภูเก็ต ควรหาโอกาสไปกราบไหว้เคารพสักการะ และชมทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะภูเก็ตบนยอดภูเขา
ไปชื่นในกันต่อที่จุดชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่เลื่องชื่อว่าเห็นพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในประเทศไทย เขามีป้ายบอกด้วยค่ะว่า พระอาทิตย์จะตกกี่โมง เสียดายเราคงอยู่รอไม่ได้ กลัวดึก เพราะต้องแว่ะ อีกที่หนึ่ง
นั่นก็คือตลาดนัดเสาร์อาทิตย์ หรือ ตลาดนัดเจ้าฟ้าวาไรตี้ หรือ Weekend Market หรือ Night Market โอยมีหลายชื่อมาก แล้วแต่ว่าจะเรียกว่าอะไร แต่ตลาดแห่งนี้ เริ่มเปิดทำการขายประมาณ 4โมงเย็น ถึงราวๆประมาณ 5ทุ่ม เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์เท่านั้น
ตลาดแห่งนี้ใหญ่มากเลยค่ะ มีขายทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียวไม่ค่อยมีสินค้าแบบหัตถกรรม หรือแบบ OTOP ขายมากนัก
สำหรับพวกเราชอบตลาดแห่งนี้มากก็เพราะมีอาหารขายหลากหลายมากๆค่ะ คือเรียกว่าอยากกินทุกร้านเลย
ขนาดค็อกเทลยังมีขาย และอร่อยด้วยค่ะ
โหย นี่ถ้าไม่ตลาดนี้ไม่ไกลจากป่าตอง พรุ่งนี้วันอาทิตย์ก็จะแว่ะมาหาอะไรทานอีก
เรียกว่าภูเก็ตนี่เรื่องอาหารเขาเด่นจริงๆ ค่ะ กินกันจนพุงกางเลย