“Remember The Alamo!!!”, San Antonio, Texas.

เราไม่รู้หรอกว่า San Antonio คือที่ไหน และมีอะไรให้ดู รู้แค่ว่า เราจะมาเยี่ยมหลานแฝดกัน
แต่หลังจากที่เดบบี้ พาเราไปเที่ยวที่ Alamo ซึ่งถือเป็นตัวเมืองของ San Antonio ทำให้เราได้กำไรจากการมาเยี่ยมและมาเล่นกับหลานแฝดนั่นก็คือ ประวัติศาสตร์ของที่นี่

ป้อมอลาโม (Alamo) นั้นเดิมทีเป็นสำนักมิสชันนารีสเปน และได้ถูกทิ้งร้างไป จนกระทั่งถึงปี 1836 (พ.ศ. 2379 ช่วงกลางรัชกาลที่3ของประเทศไทย) กองทัพเม็กซิกันเข้าโจมตีเท็กซัส และจะตั้งฐานทัพที่ป้อมอลาโมนี้ แต่ชาวอลาโมที่มีกันอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคน ไม่ยอมจำนนและต้องการที่จะตรึงกำลังข้าศึกจากประเทศแมกซิโกไว้ไม่ให้ไปบุกยึดเท็กซัส จึงเกิดสงครามกัน ณ ที่ป้อมแห่งนี้

ในขณะที่นายพล Sam Houston (ซึ่งภายหลังสงครามจึงได้ตั้งชื่อเมือง Houston ตามชื่อสกุลของท่าน) ได้พยายามรวบรวมกองทัพและกำลังทหารเท็กซัสเพื่อรับมือกับข้าศึกชาวแมกซิโก แต่ก็ไม่สามารถรวบรวมกำลังได้ทันการณ์

ชาวอลาโมพ่ายแพ้ ป้อมอลาโมถูกโจมตี ทุกคนถูกทหารชาวแมกซิกันฆ่าตายหมด ไม่เว้นลูกเด็กเล็กแดง แต่ทว่าความกล้าหาญของชาว Alamo ในครั้งนั้นถูกกล่าวขาน ชื่นชมและอยู่ในใจของชาวเท็กซัสจวบจนทุกวันนี้ ฟังแล้วเหมือนตอนที่ชาวบ้านบางระจันที่ช่วยปกป้องข้าศึกศัตรูไม่ให้ไปถึงกรุงศรีฯอยุธยาเลยนะเนี่ย

แม้ทัพของชาวแมกซิโกจะเคลื่อนทัพผ่านอลาโมไปยังเมืองอื่นต่อได้ แต่ท้ายสุดนายพลฯ Sam Houston และทหารเท็กซัส ก็สามารถขับไล่ชาวแมกซิกันจนพ่ายแพ้ออกไปจากเท็กซัสได้ ร่ำลือกันว่าระหว่างการต่อสู้นั้น ทหารเท็กซัสทุกคนต่างตะโกนว่า “เพื่ออลาโม!!!! (Remember The Alamo!)”
alamo_004

แม้ในวันนี้จะมีเพียงซากปรักหักพังของป้อมอลาโมแห่งนี้เหลือไว้ให้เราดู โดยเฉพาะโบถส์นี้ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสงครามมีกำแพงรอบล้อมแน่นหนา แต่ก็ไม่สามารถป้องกันทุกคนหลังกำแพงในตอนนั้นได้ เพราะข้าศึกนั้นบุกเข้ามาทุกทิศทุกทางจริงๆ ด้านในป้อมอลาโม เขาไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ ให้เดินดูเฉยๆ

แถมการสู้รบแต่ก่อนก็มีเพียงปืนยาว ที่นี่เขามีเจ้าหน้าที่แต่งตัวเป็นทหารในยุคนั้น แสดงวิธียิงปืนให้ดูด้านนอก เขาไม่ได้แจ้งว่า แสดงวันละกี่รอบ เวลาเท่าไร แต่พวกเราโชคดีมาก เพราะเดินไปถึง เขาก็บอกว่า ถึงเวลาสาธิตการใช้ปืนและยิงปืนให้ดูพอดี ซึ่งตอนนั้นเป็นเวลา 11.30น
alamo_001

ปืนยาวนี้มีรัศมีการยิงได้ในระยะแค่ 300ยาร์ด หรือประมาณ 200กว่าเมตร เรียกว่ายิงกันแบบตาต่อตาตัวต่อตัวกันเลย เพราะต้องยืนยิงใกล้กันมาก และในการยิงปืนแต่ละนัดนั้นใช้เวลาใส่ลูกปืน ดัน กด และกว่าจะพร้อมยิงนัดต่อไปถึง 15วินาที นั่นแสดงให้เห็นว่า โอกาสเราจะถูกยิงก่อนนั้นก็สูงมากทีเดียว ยิ่งสมัยนั้น เขาจะตั้งแถวหน้ากระดานเดินเข้าหากันและยิงใส่กันสะด้วยสิ
แม้สงครามที่ป้อมอลาโมครั้งนี้จะไม่ยืดเยื้อ แต่ก็กินเวลาถึง 13วัน และแม้ว่าชาว Alamoจะเสียชีวิตหมดแต่ความกล้าหาญของชาว Alamo ทำให้ชาว Alamo เป็นฮีโร่ในใจของชาวTexas ตลอดมา เพราะไม่เช่นนั้น รัฐTexasอาจจะตกเป็นส่วนหนึ่งของแมกซิโกไปแล้วก็ได้…

ศึกในครั้งนี้ สร้างฮีโร่มากมายในอลาโม หนึ่งในนั้นที่เป็นขวัญใจเด็กๆ คือ Davy Crockett ผู้กล้าหาญที่เติบโตมาอย่างคาวบอย เขาได้นำผู้กล้าหาญมาช่วยชาวอลาโมและได้เสียชีวิตที่นี่ วีรกรรมอันยิ่งใหญ่พร้อมกับชีวิตนักผจญภัยของเขาถูกเล่าและถูกสร้างเป็นหนังจนเขากลายเป็นฮีโร่ขวัญใจคนหนึ่งของเด็กๆ และชาวอเมริกันเลยทีเดียว

ทุกวันนี้ที่ป้อม Alamo และเมือง Alamo นี้ จึงเป็นที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของรัฐเท็กซัส และจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมายมาแว่ะชมเมืองนี้

alamo_002
ภาพซ้ายเป็นภาพเราถ่ายกันเองหน้าป้อมอลาโม ส่วนภาพขวาเวลาเดินเข้าป้อม เขาจะถ่ายรูปให้ แล้วให้เบอร์ไปรับรูปด้านใน ถ้าอยากได้ก็ถึงซื้อชุดละประมาณ 1000 บาท (มี2-3ภาพและมีกรอบแม่เหล็กให้ด้วย) แต่เสียดาย ภาพที่เขาถ่ายมองไม่เห็นป้อมอลาโมเท่าที่ภาพที่เราถ่ายกันเอง…

นอกจากนี้ในบริเวณนี้ยังมีร้านค้าร้านอาหารมากมายอีกด้วย โดยเฉพาะที่ River Walk ที่สามารถซื้อตั๋วแล้วนั่งเรือล่องชมแม่น้ำรอบๆบริเวณเมือง เสียดายเราไม่มีเวลา ประกอบกับร้อนมาก(มากๆๆๆๆ) เหมาะกับมาเดินเล่นตอนเย็นๆมากกว่า เพราะคนส่วนใหญ่จะมาทานอาหารและชมบรรยายที่นี่ตอนเย็นๆ
alamo_003

พวกเรามากำลังเที่ยงเลย ได้ทานอาหารกลางวันที่ร้านแมกซิกันแห่งนี้ ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานต่อที่ Houston เมืองที่ถูกชาว Alamo ป้องกันไว้…

Remember Alamo!!!

ขอบคุณ Local guides; Debbie, Caroline and William for this markable trip.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up