ถ้าหากชื่นชอบอาหารเกาหลี หรือ อยากลิ้มรสอาหารเกาหลี เวลามาเที่ยวที่เมืองโซล แนะนำทัวร์นี้เลย
(English)
เราซื้อทัวร์นี้กับ Klook แต่สามารถซื้อทัวร์นี้โดยตรงกับ O’ngo และขอบอกว่า เราไม่ได้ค่า tie-in หรือค่าโฆษณาใดๆ กับที่นี่ เพียงแต่เอาประสบการณ์มาแชร์กันเฉยๆ ค่ะ
ทัวร์อาหารที่เราซื้อ ทัวร์อาหารชิมทั่วไป 6 อย่าง ต้องขอเน้นมาว่า เป็นทัวร์ “ชิม” ไม่ใช่ทัวร์ “กิน” นะคะ นั่นก็หมายความว่า จะได้ทานกันคนละนิดละหน่อย แต่มาพอมารวมๆ กันแล้วกว่าจะจบทัวร์ก็อิ่มตื้อเลยค่ะ เพราะว่า อาหารเกาหลีนั้นเขาเน้นแป้งเป็นหลัก
หากจะให้ติติงที่นี่ ก็คือ จุดที่นัดพบค่อนข้างจะไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไร แถมในอีเมล์เขาก็ไม่ได้บอกว่า ให้นั่งรถไฟฟ้าอะไรไป แต่ว่า เขานัดเจอกันที่ O’ngo ซึ่งที่นี่เขาสอนการทำอาหารเกาหลีด้วยค่ะ และโรงเรียนนี้สอนทำอาหาร O’ngo อยู่ในตลาด Insadong ที่สามารถนั่งรถไฟฟ้าสายสีส้มไปลงที่สถานี Anguk ทางออกที่ 6 แล้วใช้ GPS เดินหาโรงเรียน O’ngo กันเอาเอง
ส่วนพวกเรานั่งรถแท็กซี่ค่ะ เพราะว่า จากโรงแรม Fraser Place Center Seoul นั้นค่าแท็กซี่เพียงแค่ 5000วอน
ทัวร์นี้ นับว่าเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติจริงๆ มีเพื่อนรวมทัวร์วันนี้จากหลายๆ ประเทศ ทัังโคลัมเบีย แคนาดา อเมริกา และจากประเทศไทย คือเราเอง
ทุกคนมาตรงเวลาค่ะ ก็จะทำการเช็คชื่อนิดหน่อย ไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก จากนั้นไกด์ (2คน) ก็พาเราเดินผ่านตลาดถนน Insadong ไปเริ่มที่ร้านแรก คือร้านหมูย่างเกาหลี (จริงๆ มีทั้งหมู และเนื้อค่ะ)
ไกด์ก็จะคอยดูแลและแนะนำวิธีการทานหมูย่าง แบบฉบับ เกาหลี คือ เอาใบไม้ห่อหมู ใส่เครื่องเคียง ซึ่งๆ หลักๆ ก็คือ กิมจิ
และใบไม้ที่นิยมทานกันก็คือใบงา ซึ่งมีรสฝาดนิดๆ มีกลิ่นหน่อยๆ ทานครั้งแรกนึกว่า ใบกัญชาค่ะ แต่เราทานมาเยอะแล้วที่ปูซาน วิธีทานก็ย่าง ห่อ แล้วก็ทานค่ะ
เรียกว่า เขาก็เสิร์ฟและแบ่งกันทานไปเรื่อยๆ แต่น้องไกด์เขาจะแนะนำว่า มีอีกห้าอย่าง ให้เหลือที่ในท้องเผื่ออย่างอื่นด้วย
จากนั้นน้องๆ เขาก็พาไปลองน้ำดื่มที่นำมาจากข้าว ฝรั่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบค่ะ มันมีข้าว เหมือน ข้าวหมัก รสชาดหวานๆ สำหรับเราคล้ายๆ น้ำลำไยแบบไม่มีกลิ่นลำไย น้ำข้าวนี้มีขายตามร้านค้าตามถนนทั่วไปในเกาหลีใต้ (ที่ปูซานก็มีค่ะ)
จากนั้นเราก็เดินตรงไปทาน ต๊อกโปกกี ซึ่งร้านนี้ดูจะแบบประหนึ่ง ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวหลงมาก็คงสั่งเองไม่ถูก น้องไกด์เขาให้ลองแบบซุปหวานๆ ตัวต๊อกก็นุ่มๆ เคี้ยวมันดี อันนี้ก็อร่อยดีนะ อาหารนี้เขาถือว่าเป็นอาหารทานเล่นๆ นะคะ
จากนั้นก็ไปต่อที่ร้านเกี๊ยวร้านนี้เลยค่ะ น่าจะเป็นร้านที่ได้รับความนิยมพอสมควรเพราะว่า มีคนต่อแถวตลอด น้องเขาให้ลองติ่มซำกิมจิ ซึ่งไม่ค่อยมีใครชอบ แต่เกี๊ยวทอดแบบไม่มีกิมจิทานกันจนเกือบหมดเลย
จริงๆ แค่นี้เราก็จุกแล้วค่ะm สนใจเกี๊ยวร้านนี้ หาคนถือป้ายชักชวนเข้าร้านนี้ได้เลยค่ะที่ ตลาดอินซาโดง
น้องๆ เขาก็พาไปต่อที่ร้านก๊วยเตี๋ยว ร้านอยู่ในมุมทึบๆ แทบจะไม่มีอะไรสะดุดตา และเขาแนะนำว่า เป็นก๋วยเตี๋ยวแบบเกาหลีผสมแบบจีน ที่เขาเรียกว่า ซาจางเมียน 싸장면 โดยเจ้าน้ำซอสดำๆ เค็มๆ นี่แหล่ะค่ะ เขาว่าเป็นแบบจีนๆ
สรุป ไม่มีใครชอบก๋วยเตี๋ยวนี้เลย ก็ดีค่ะ เพราะว่า ถ้าจะกลับมาสั่งเอง ก็คงสั่งไม่ถูก ดูบรรยากาศแล้ว เราไม่น่าจะสั่งอะไรเองได้เลยค่ะ ก๋วยเตี๋ยวจีน-เกาหลีนี้ ราคาชามละ 3000วอนค่ะ
ผ่านไปห้าอย่าง ขอบอกว่า เริ่มพะอืดพะอมกันมาก แต่พอน้องไกด์บอกว่า เป็นของหวานแล้ว ฝรั่งมักจะพูดว่า It’s always room for dessert! คล้ายๆ ว่า ทานอาหารอิ่มแล้วก็ต้องมีขนมตบท้าย (แต่ถ้าแปลตรงตัว ก็คือ จะอิ่มยังไง ท้องก็ยังว่างสำหรับของหวาน)
เขาพามาทานบิงซูที่ร้าน นี้ค่ะ ร้านนี้จะมีอยู่ทั่วกรุงโซลเพราะเป็นร้านดัง และอร่อย
ก็อร่อยสมชื่อเขานั่นแหล่ะ แต่มันถึงจุดที่กินไม่เข้า คายไม่ออกแล้วค่ะ แต่จริงๆ ตอนเราจะซื้อทัวร์รายการอาหารจะดูแบบแปลกๆ เช่น ไส้กรอกเลือด ขนมโฮต๊อก อะไรแบบนั้น ก็แอบเสียดายที่รายการมันเปลี่ยนเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะหาทานเองได้แบบนี้…
จบทัวร์กันที่นี่ น้องๆ ไกด์ก็กล่าวลา พวกเราก็ได้ทั้งอิ่ม และได้เพื่อนใหม่ระหว่างทริปไปด้วย ทัวร์วันนี้ตกคนละ 42,300วอน นับว่าคุ้มสุดๆ นะคะ กับปริมาณอาหารที่เราทานไป แถมน้องๆ วันนี้ก็ทำทัวร์ได้ดีมากๆ ค่ะ
เป็นเรื่องปกติที่จบทัวร์แล้ว เราแค่กล่าวคำขอบคุณ เพราะที่เกาหลีใต้ เขาไม่รับทิปค่ะ…
ทัวร์เริ่มประมาณ บ่ายโมงตรง อิ่มและจบทัวร์ประมาณบ่ายสามโมงค่ะ
จบทัวร์แล้ว ก็ดีตรงได้เดินย่อย ช้อป ซื้อของใน Insadong ตลาดที่พวกเราชอบที่สุดในโซลค่ะ
