จากแม่สอดมาถึงอุ้มผางเมื่อคืนวันก่อน เช้าวันใหม่เราเดินทางไปน้ำตกทีลอซูซึ่งถือเป็นไฮท์ไลท์ประจำทริปนี้ วันนี้ทางภูดอยบอกให้เราตื่นและเตรียมตัวประมาณ 8 โมงเช้าเพื่อที่จะออกเดินทางไปน้ำตกทีลอซูกันวันนี้เป็นทริปเต็มวันนะคะ
ทานข้าวเช้าเสร็จแล้วพวกเราก็จัดแจงโดยทางรีสอร์ทภูดอยจัดเตรียมรถกะบะรอรับพวกเราค่ะ จากภูดอยเพียงประมาณ 20 ถึง 30 นาทีก็ถึงแม่น้ำกลองที่เราจะล่องแพกันค่ะ ตอนแรกเราวาดหวังไว้ว่าจะเป็นการล่องแพแบบน้ำเชี่ยวกราดจริงๆแล้วเป็นแม่น้ำนิ่งนิ่ง สงบๆ ค่ะ
และตอนแรก พวกเราก็หวังว่าจะต้องพายเรือกันเอง แบบได้ออกกำลัง แต่จริงๆ แล้ว พวกเราไม่ได้พายเลย เพราะมีน้อง 2 คนพายให้เราอยู่ข้างหน้าและข้างหลัง พวกเราเลยได้แต่นั่งชิวชิวชมทิวทัศน์ 2 ข้างทางของแม่น้ำ
แต่ให้เราพายจริงๆ ก็พายไม่ไหวหรอกค่ะ น้ำนิ่งสะขนาดนี้ ไม่มีกระแสน้ำช่วย ต้องแข็งแรงและกำยำจริงๆ ถึงจะพายเรือนี้ได้
พายเรือล่องแพยางมาได้ครึ่งทาง ผ่านน้ำตกทีลอแล นี่ก็ถือเป็นจุดชมวิวแห่งแรกที่พวกเราตื่นเต้นเพราะว่ามีน้ำตกเล็กๆ ไหลผ่านผาหินแล้วเรือพวกเราก็ค่อยๆ ล่องผ่านสายน้ำตกนั้น มันทำให้การล่องเรือของเรามีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที
ตรงนี้แหล่ะค่ะ วิวสวย น้องคนพายเรือบอกว่า ถ้าเราออกเช้ากว่านี้ จะเห็นสายรุ้งบนน้ำตกเวลาถ่ายรูปแล้วจะสวยมากๆ
ขอจอดถ่ายรูปกลุ่มกันหน่อย…ถือเป็นการยืดแข้งยืดขาไปในตัว เพราะนั่งเฉยๆ มานานมากแล้ว
กลับมานั่งเรือกันต่อ พายจ้ำพายไปเรื่อยๆ ค่ะ ตอนนั่งเหมือนไม่มีจุดหมาย บางที อุ้ย นี่เราพายวนกลับมาที่เดิมหรือเปล่าค่ะ
อย่างที่บอกค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว นอกจากเรือของเราแล้ว ก็มีเรือนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ อีกแค่สองสามลำเองค่ะวันนี้…
สักพักใหญ่ๆ พวกเราก็ได้หยุดพักที่น้ำพุร้อนค่ะ เป็นบ่อน้ำพุเล็กๆ เดินเข้าไปนิดหน่อย ที่นี่เราได้พบกับเด็กนักเรียนต่างชาติที่มาเที่ยวกันช่วงพักร้อนก็แอบแปลกใจทำไมน้องเค้าถึงเลือกมาที่นี่ สักพักมีนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มใหญ่ถือขวดเบียร์มานั่งดื่มเล่นกันในบ่อนี่แหล่ะค่ะ บ่อยิ่งเล็กๆอยู่ มากันหลายคนก็ไม่รู้สึกอึดอัดเท่าถือเบียร์ลงมานั่งดื่มกัน ภาพนี้เลยใช้ Photoshop ลบทุกคนออก เหลือแค่เราสองคน…สร้างความทรงจำที่ดีๆ ดีกว่า!
จากนั้นเราเริ่มทยอยกลับลงเรือ (อีกแล้ว!) เรือของน้องๆ ชาวต่างชาติฯ ที่เพิ่งเจอกันที่บ่อน้ำพุ…โบกมือทักทายกันใหญ่ พายหนีเราไปได้ไม่ไกลหรอกค่ะ เดี๋ยวก็เจอกัน 🙂
กลับมาล่องเรือกันต่อ นี่ผ่านไปเกือบๆ สองชั่วโมงแล้วค่ะ ตั้งแต่เริ่มลงเรือ เราก็ยังพายผ่านป่า ผ่านถ้ำ ผ่านลำน้ำ ผ่านต้นไม้หลากหลายชนิด แต่ มันเหงาไปไหม??? มันเบื่อด้วยอ่ะ หนทางมันยาวไกลเกินไป แถม หิวอีกต่างหาย เรานี่ถามน้องคนพายเรือตลอดว่า เมื่อไหร่จะถึง?
สรุปโดยรวมใช้เวลาพายเรือเป็นเวลาเฉียดๆ 3 ชั่วโมงเต็ม ก่อนที่จะแว่ะทานข้าวกลางวันค่ะ ด้วยความที่หิวมากตอนที่น้องเสิร์ฟอาหารเห็นแค่ข้าวกับผัดกะเพรา(ห่อเล็กมาก) และไข่ต้ม 1ฟอง คือ แค่นี้เองเหรอ??? นี่มัน 35-40 บาทต่อกล่องนะคะ ทางภูดอยน่าจะลงทุนมากกว่านี้อีกหน่อย อย่างตอนเราไปเที่ยวทะเล เขายังจัดเต็มกว่านี้ ถึงขนาดแบกแตงโมมาผ่าให้กินสดๆ แต่นี่มันน้อยไปจริงๆ ค่ะ (ทุกอย่างได้คะแนนดีหมด มาเสียตรงอาหารกล่องมื้อนี้แหล่ะค่ะ)
ทานข้าวกลางวันเสร็จแล้วเราเริ่มเดินทางกันต่อโดยขึ้นรถกระบะคันเดิม คันที่รับเรามาส่งท่าน้ำตอนเช้า ตอนแรกนึกว่านิดเดียวเลยนั่งโหนกันหลังกระบะ แต่ว่าไกลมากกกกกกกกก ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง แต่เวลายังไม่เท่ากับถนนหนทาง เพราะว่ามันช่างลำบากมาก ยิ่งนั่งข้างหลังยิ่งกระแทกและเขย่าพวกเราสี่คนจนแทบจะรวมตัวกันเป็นคนๆ เดียว…เอ่อ นี่คือข้อดีที่เขาเตรียมอาหารกลางวันให้น้อยหรืเปล่าค่ะ???
อีกหนึ่ง ชั่วโมงหฤโหดผ่านไป การที่รถจอดแล้วได้ลงจากรถนั้นเปรียบเสมือนได้เกิดใหม่!!!
แต่จากตรงนี้ยังไม่ถึงนะคะ (ค่าเข้าอุทยานฯ คนไทย 40บาท ต่างชาติฯ 200 บาทค่ะ แต่พวกเราทางภูดอยเขาเรียกเก็บไปพร้อมกับแพ็คเกจทัวร์แล้ว) เราต้องเดินเข้าอีกนิด ไม่ใกล้ไม่ไกลค่ะ ประมาณ 15-20 นาที (ขอให้ได้เดินเถอะค่ะ ความสุขมันอยู่ตรงนี้แหล่ะ นั่งเรือมา3ชั่วโมง นั่งรถอีกชั่วโมง ณ จุดนี้ ดีใจที่ได้ใช้ขาตัวเอง…)
ถึงน้ำตกแล้ววววว น้ำตกทีลอซูช่วงนี้น้ำน้อยก็จริง แต่ถือว่าปลอดภัยมากแต่ก่อนเล่นน้ำ เพราะว่าน้ำไม่แรง และไม่ลึกมาก
ในที่สุดเราก็ได้เล่นน้ำตกทีลอซู เธอจะรู้ไหมว่า ชั้นดั้นด้นมาหาเทอยากรำบากแค่ไหน ขอเล่นน้ำกันให้ฉ่ำปอดทีเหอะ (น้ำเย็นจริงๆ)
นี่แหล่ะค่ะทริปน้ำตกทีลอซูของพวกเรา ดีใจที่ได้มากัน โชคดีที่ทุกคนไม่ว่าจะเป็น ทิม ทิมัวร์ อาซี่ ต่างก็เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่รักและหลงใหลธรรมชาติในประเทศไทย ไม่ว่าทริปนี้จะดูยากลำบากแค่ไหน แต่พวกเขาเหล่านี้มันจะพอใจกับสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า…
แต่ถ้าถามฉัน ฉันว่ามาเที่ยวสักครั้งก็ดี แต่ถ้าอยากเล่นน้ำตกเฉยๆ ถ้าอยู่ภาคกลาง งั้นไปน้ำตกเอราวัณ หรือน้ำตกวังตะไคร้ ใกล้ๆ ก็พอค่ะ ได้เล่นน้ำตกเหมือนกัน แต่ถ้า อยากมาถ่ายรูป อยากมาเที่ยวแบบธรรมชาติและต้องการพิสูจน์สมรรภภาพตัวเองก็มาที่นี่เลยค่ะ น้ำตกทีลอซู…
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่มีสายการบินใดบินตรงจากกรุงเทพฯ มาอุ้มผางล่ะก็…นี่ก็คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวของเราที่ ทีลอซู เพราะเราไม่สามารถนั่งรถผ่าน 1219 โค้งจากแม่สอดมาอุ้มผางได้อีกต่อไป (คิดดูไปกลับก็เกือบสามพันโค้งเลยนะ)
Thank you 🙂
I like your, illustrations.. Congratulations..Keep it up!