ดันมาชอบท่ายากตอนแก่! ตอนอายุน้อยๆ ไม่ได้สนใจเรื่องออกกำลังกายใดๆ แค่มี elliptical ปั่นที่บ้านวันละ 15-20 นาทีก็คิดว่าพอเป็นพิธี แต่มันจำเจและน่าเบื่อมาก เลยพยายามหาทางเปลี่ยนตัวเอง ช่วงนั้นเห็นภาพดาราเล่นโยคะฟลายกันหลายคน แลดูน่าสนใจเพราะส่วนตัวชอบอะไรที่สูง แหว่งๆ เหวี่ยงๆ แถมมีท่าห้อยหัวลงได้ด้วย ท่านี้แบบนี้นั่นแหล่ะ ที่เขาว่าจะทำให้หน้าเด็กลง!!!
ฉันจึงไม่รีรอ (ยิ่งรอ ยิ่งแก่ไปวันๆค่ะ) เริ่มกูเกิ้ลหาที่เรียน เมื่อปีที่แล้ว (57) มีไม่เพียงกี่ที่ ที่สอนโยคะฟลาย และที่ขึ้นมาลำดับต้นๆ ก็คือของคุณ Patricia ซึ่งเขาบอกว่าเขาเป็นต้นตำหรับโยคะฟลาย ตอนแรกเราก็ไม่เชื่อค่ะ แต่ก็เลือกที่จะลองเรียนกับที่นี่ จำได้วันนั้นวันแรกวันที่ 16 ก.ค 57 ไปกับเพื่อนอีกสองคน จำได้อีกด้วยว่าไม่ชอบพนักงานหน้าเค้าน์เตอร์เลย หน้าตาไม่รับแขก น้ำเสียงเหมือนไม่แคร์ใดๆ (แต่นางออกไปแล้วค่ะ) คลาสแรกวันนั้น เขาแนะนำให้ใส่เสื้อมีแขน ยิ่งแขนยาวยิ่งดี ส่วนกางเกงให้ใส่แบบกางเกงเลกกิ้ง เพื่อไม่ให้ผ้าบาดเนื้อ
แค่ได้ลองคลาสแรกก็ชอบมากเลย มีหวาดเสียวบ้าง เวลายืน หรือนั่งบนผ้า กลัวจะตก (ถ้าตกก็เจ็บแน่นอน) จำได้ว่ามือกำผ้าแน่นมาก และหลังจากนั้นเกือบสามวัน เจ็บ ปวด เมื่อยทั้งตัว แต่เล่นไปเยอะๆ ผิวจะชิน หรือด้านก็ไม่แน่ใจ เพราะว่ามันไม่เจ็บอีกแล้ว
วันต่อมา เพื่อนสองคนที่ไปด้วยกัน โทรฯมาถามว่า จะซื้อคอร์สไหม ซึ่งเรากำลังตัดสินใจเพราะว่า แพงค่ะ คอร์สนึงเป็นหมึ่น (เฉลี่ยครั้งละ 350-400 บาท ซึ่งถูกกว่า walk-in เป็นครั้ง ๆ ละ 750 บาท) แต่พอเพื่อนทั้งสองคนบอกว่าสนใจ ก็เลยตัดสินใจซื้อคอร์ส 50 ครั้งไปและเล่นได้ถึงสิ้นปี
มาพูดถึงสตูดิโอที่นี่ก่อน “Pilates Station” ตอนนี้อยู่ที่ตึก Jasmine City (BTS: อโศก, MRT: สุขุมวิท) ที่นี่เขามีทั้งโยคะฟลาย และ พิลาทิส แพททิเซียผู้ก่อตั้งสตูดิโอแห่งนี้ เขาเป็นผู้บุกเบิกศาสตร์โยคะฟลาย จริงๆ แพททิเซีย เขาเป็น ชาวฝรั่งเศส อายุไม่ต่ำกว่า ห้าสิบแน่นอน แต่เขาดูสง่า และมีออร่ามาก เธอไม่ได้สวยการจากแต่งหน้า แต่สวยใสอ่อนกว่าวัย และเฟิร์มมากๆ เห็นแล้วทำให้มีแรงบันดาลใจและพลังใจในการเล่นโยคะฟลาย เพราะอยากเป็นเหมือนเขา ส่วนพิลาทิสฉันลองแล้วแต่ไม่ใช่แนว อีกอย่างที่ไหนๆ ก็มีพิลาทิส ก็เลยไม่ได้สนใจมาก ส่วนที่เขียนรีวิว นี่ก็เพราะว่าอยากจะแชร์ประสบการณ์โดยตรงค่ะ ไม่ได้ค่าจ้างหรือส่วนลดหรือผลตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น จริงๆ
เพราะชอบโยคะฟลาย เราเลยโฟกัสและตั้งใจเล่นโยคะฟลาย ที่นี่เขาจะเรียกคลาสพื้นฐานว่า Initiation (แต่ตอนนี้รู้สึกว่าเขาจะเรียกว่า Discovery Fly) ก็คือคลาสเริ่มต้น เป็นฝึกปีนป่ายนั่งและโพสง่ายๆ แต่ตอนเริ่มใหม่ท่าไหนมันก็ยาก พอเรียนได้ระดับนึง (สักประมาณ 10 คลาส)เราก็ได้เลื่อนขั้นไปเป็น White Wings ปีกขาว ก็คือเริ่มท่ายากขึ้น โดยรวมๆ white wings จะมีเริ่มเอาทุกท่าในคลาสเริ่มต้นมาต่อกัน ม้วนตัวมากขึ้น และหยุดพักน้อยลง คือเล่นต่อเนื่องๆ
เรียน white wings ไปอีกเกือบๆ 20 คลาส เราก็เริ่มลองคลาสสูงขึ้น นั่นก็คือ Yellow Wings คือปีกสีเหลือง คือม้วน ก็ม้วนเยอะขึ้น บางท่าเคยม้วยสองรอบ ก็ม้วน และพัน มากขึ้นเป็นสามรอบ สี่รอบ ยิ่งพันผ้าก็ยิ่งรัดและก็ยิ่งเจ็บค่ะ แต่อย่างที่บอก ว่าท่ายิ่งยาก มันก็ยิ่งสนุก…บางท่าก็ทำเป็นคู่ หรือเริ่มทำเป็นกลุ่มเพิ่ม หรือมีการดรอป (drop การปลดผ้า แบบให้เราหลุดแต่ไม่ตก) การฟลิป(flip ตีลังกา ทั้งหน้า และหลัง) ซึ่งสร้างความหวาดเสียวให้ทั้งผู้เล่น และ ผู้ชม
ณ ตอนนี้คลาสที่เปิดสูงสุดก็คือ Yellow wings ซึ่งตาม chart ที่ Patricia ทำไว้เขามีสูงไปอีก คือ Green Wings และ Red Wings ที่เขายังไม่ได้เปิดสอนเลย แต่ปัจจุบันกลุ่มที่เรียน Yellow wings ของเราก็มีจำนวนไม่เยอะ บางท่าพวกเราก็ยังทำไม่ได้…
ผลลัพภ์รวมๆ ที่เราได้จากการเล่นโยคะฟลาย เริ่มเห็นผลเมื่อตอนหกเดือนแรก เราเริ่มมี กล้ามหน้าท้อง แต่ไม่ถึง ซิกส์แพค (6pack) น่าจะราวๆ 4แพค(ท้องส่วนบน) แต่มันขึ้นอยู่กับพื้นฐานหุ่นเราด้วย เพราะฉันจัดว่าเป็นคนตัวเล็ก แต่เอวหนา อาศัยใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ ก็ไม่มีใครดูออกว่า พุงป่องและมีห่วงยางรอบเอว แต่ถ้าใครมากอด หรือโอบเอว จะรู้สึกได้ถึงไขมันทันที โดยเฉพาะหน้าท้องเรา เป็นคนหนังหน้าท้องหนามาก ยิ่งเวลานั่ง สามารถเอามือจับไขมันที่หน้าท้องได้เป็นกำๆ คือมันเป็นปมด้อยมาตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งสมัยก่อนโน้น เขามีครีมสลายไขมัน ฉันเสียเงินซื้อตลอด แล้วพอมีพวกกำจัดไขมันหน้าท้องนี่เราก็ไปปรึกษาแพทย์แต่ละคลีนิคมาแล้ว โชคดีที่ทั้งกลัวและทั้งงก เลยไม่ได้ทำ…
จากการเรียนโยคะฟลาย หน้าท้องฉันเริ่มบางลง จนตอนที่เล่นมาครบปี เรารู้สึกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยรู้สึกว่าหุ่นดีขนาดนี้ คือมันอาจจะไม่ดีเท่ากับคนอื่นๆ ดารา หรือ นางแบบ แต่ว่า เปรียบเทียบตัวเองแล้วรู้สึกได้ว่า บอดี้ หรือหุ่นเรานั้นเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น แม้แต่โรคบางอย่างเช่น ภูมิแพ้อากาศ ก็รู้สึกได้ว่า ไม่ค่อยแพ้อากาศ ป่วยน้อยลง หรือแม้แต่วันนั้นของเดือนของเหล่าสาวๆ ปกติฉันจะปวดท้องประจำเดือนในวันแรกๆ ที่มีรอบเดือน แต่ตอนนี้ บางเดือนลืมไปเลยว่ามีประจำเดือนอยู่ เพราะว่าไม่รู้สึกปวดท้องเลย
รวมๆ แล้วของเขาดีจริงๆ ค่ะ ยิ่งแต่ก่อนเนี่ย จะมีสิวระอุ คือขึ้นไม่เลือกที่ แต่ขึ้นไม่เยอะ แต่ว่าทุกเดือนจะต้องมีสิวประจำเมืองขึ้นที่หน้า เป็นสิวอักเสบและจะต้องเสียเงินกับหมอสิวเยอะมาก ต้องใช้ยาเขา ต้องไปหาเขาเกือบๆ ทุก สองอาทิตย์ แต่เดี๋ยวนี้ ถึงแม้จะมีสิวบ้าง แต่ไม่อนาถเหมือนปีก่อนนี้แล้วค่ะ ไม่ต้องไปหาหมอซื้อคอร์สอะไรมากมาย ทุกวันนี้ใช้คอร์สทีเหลือที่ซื้อเมื่อปีที่แล้ว ยังไม่หมดเลยค่ะ
สรุปการเรียนโยคะฟลายของฉัน ไม่ได้เรียนเพื่อเป็นกระแสหรือแฟชั่นค่ะ เรียนเพราะใจชอบจริงๆ เห็นผลกับตัวเอง พวกผอมแล้วคิดว่าสุขภาพดี หรือ ตัวเล็กแล้วคิดว่าตัวเองหุ่นดีนั้นหมดยุคไปแล้ว มันเป็นยุคของสวย-แข็งแรง-มีซิกส์แพคค่ะ และโยคะฟลายช่วยได้จริงๆค่ะ เพราะเป็นการออกกำลังกายที่นำเอาจุดเด่นของโยคะ พิลาทิส การเต้น และยิมนาสติกมาผสมผสาน ยังช่วยยืดร่างกายทุกส่วนตั้งแต่หัวจรดเท้า ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้ดี ช่วยสร้างกล้ามเนื้อพร้อมกับสร้างความยืดหยุ่น ของร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อร่างกายส่วนบน ช่วยพัฒนาระบบประสาท และยังช่วยให้ผู้เล่นมีสติ เพราะทุกท่าต้องมีการกำผ้าที่ถูกต้องเพื่อที่จะหมุน และเล่นท่าได้ตามที่ครูผู้สอนบอก ผู้เล่นจึงต้องมีสติฟังและดูครูสาธิตอยู่ตลอดเวลาด้วย โยคะฟลายนี้ เล่นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายนะคะ (แต่บางท่า ผู้ชายอาจจะเจ็บเยอะกว่า…) ที่นี่เขามีคลาสสำหรับเด็กด้วย
ตอนนี้ หน้าท้องยุบลง แถมไขมันบริเวณสบักหลังที่เวลาใส่เสื้อในเห็นปูดออกมาแต่ก่อนนั้น หายไป ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น กล้าแต่งตัวมากขึ้น แต่น้ำหนักเราเพิ่มขึ้นด้วย แต่ก่อน จะอยู่ประมาณ 42.5 kg แต่ตอนนี้ จะประมาณ 44.5 kg ก็แอบอุ้มใจ เพราะว่าถ้าเป็นแต่ก่อน น้ำหนักขนาดนี้ถือว่าอ้วนมาก พุงนี่จะยื่นออกไปเลยค่ะ แต่ปัจจุบันมันดูเป็นสัดส่วนมากขึ้น ก็พยายามจะปลอบใจตัวเองว่าเวลาเราออกกำลังกายและมีกล้ามเนื้อทำให้น้ำหนักเราหนักกว่าแต่ก่อน…
การเล่นโยคะฟลายนั้น โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่ผ้า Hammock ที่เขาโฆษณาว่านำเข้าจากอเมริกา ซึ่งถูกทอขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้มีความนุ่มนวล ยืดหยุ่นเฉพาะแนวขวาง และรับน้ำหนักได้เป็นพันกิโลกรัม เล่นได้ครึ่งปีเราก็เริ่มอยากมีผ้าไว้ซ้อมเองที่บ้าน สนนราคาผ้าที่เราซื้อการทางสตูดิโอของคุณแพทริเซียนั้นประมาณ 8500 บาท (ครบเซ็ต แต่มาซื้อบันไดเพิ่มอีกนะ)
ปัจจุบันมีลูกศิษย์ของคุณแพทริเซียบางรายที่นำเอาหลักสูตรโยคะบินไปเปิดสอนในสถาบันของตัวเองบ้างแล้ว เช่น Yoga & Me ของ “ป้าจิ๊” อัจราพรรณ เป็นต้น และอีกหลายๆสตูดิโอที่เปิดสอนโยคะฟลาย เรียกว่ากำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายกันเลยทีเดียว
โยคะฟลายทีอื่นๆ ที่สามารถรวบรวมได้
- Sky Fly Fitness at Recquest Club สุขุมวิท 49, https://www.facebook.com/pages/Skyfly-fitness/802816783068762
- I’m Fly Studio, The Sense ปิ่นเกล้า https://www.facebook.com/pages/Im-Fly-Studio/314563112033498
- Pilates Bangkok พิลาทิสและโยคะฟลาย, อโศก ตึก Interchange, http://www.sanooklife.com
ปัจจุบันคลาสที่เป็นที่นิยมใน ศาสตร์ aerial มีสามแบบหลักๆ ก็คือ ห่วง (Hoop) ผ้าเปล (Hammock) และผ้าโหน (Silk)
ยิ่งครูเล้งนำศาสตร์โหนผ้า (Silk) ไปประกวดใน Thailand Got Talent ฉันเริ่มสนใจการเล่นโหนผ้าแบบครูเล้ง (แต่ค่าเรียนครูเล้งแพงมาก ตกคลาสละ 1000 บาท แถมอยู่ไกลบ้านมาก) โชคดีที่เพื่อนๆ ที่เรียนโยคะฟลายไปเริ่มลองเล่นที่ Aerial Factory Bangkok เราก็เลยตามเขาไป การมีพื้นฐานมาจากโยคะฟลายก็ทำให้เราเล่น Silk ได้ง่ายขึ้นนิดนึง แต่ทุกอย่างก็เหมือนเริ่มต้นใหม่ เพราะว่า ผ้าสูงกว่า และท่าเขาไปได้เยอะกว่า…
ช่วงที่เริ่มเล่น Silk ควบคู่ไปกับโยคะฟลาย โดยหลังๆ เราก็เริ่มเทใจให้กับ SILK แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เลิกจากโยคะฟลายไม่ได้จึงได้เรียนเป็นครูโยคะฟลายสะเลย!!!
ด้วยใจรักศาสตร์เอเรียลอย่างที่เขียนบรรยายมาข้างต้นนี้ เรายัง ทำ สติกเกอร์ขายในไลน์ (Line App) อีกด้วย อย่างไร ช่วยๆ กันสนับสนุนนะคะ