นิยาย เรื่อง ตระกูลซงอู้

อยากเล่านิยาย ของตระกูลซงอู้ ให้รับอ่านกันค่ะ ใครจะเอาพ้อตเรื่องไปทำเป็นหนังเป็นนิยาย ขอค่าลิขสิทธิ์ด้วยนะคะ อิๆๆ
นิยายเรื่องนี้ ตัวเอก ชื่อ เทียม ซงอู้ เป็น ผู้ชายหน้าตาดี ขี้เล่น เป็นกันเองแบบเหลือเชื่อจนถึงเหลือเกิน กับ สาวชื่อ จันทร์แรม โดยใครๆ ที่พบเจอเธอแรกๆ จะคิดว่าเธอเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด แต่เมื่อรู้จักตัวตนเธอจริงๆ เธอเป็นคน ไม่ได้อยากมีเรื่องกับใคร และก็ไม่อยากให้ใครมาหาเรื่องกับเธอ เธอมักจะบอกทุกคนเสมอว่า เธอไม่ได้เรียบร้อย แต่เพียงเธอรักษามารยาทด้วยการนิ่งเงียบเสียส่วนใหญ่ จันทร์แรม ลึกๆ เป็นคนมีปมด้อย เกิดมาพ่อแม่เลิกทางกัน แต่จันทร์แรม โชคดีที่มีแม่ที่รักเธอมาก จันทร์แรม ไม่มีของเล่นที่ใช้ถ่านหรือต้องเสียบปลั๊กไฟเล่นเลยในวัยเด็ก ของเล่นที่มีติดมือประจำคือ ตุ๊กตากระดาษ แผ่นละ 2 บาท จันทร์แรมคิดเสมอว่าบ้านตัวเองยากจน จันทร์แรม ไม่รู้เลยว่าจริงๆ แม่มีเงินที่ได้จากพ่อ ที่ทำงานต่างประเทศฯจำนวนมาก เพียงแต่แม่ ใช้เงินเหล่านั้นกับญาติพี่น้องของแม่เป็นส่วนใหญ่ โดยรวมแล้ว พวกเรากินอยู่กันอย่างประหยัดกันมากๆ แต่ไม่เคยอดเลย เพราะมีข้าว มีอาหารกินทุกมื้อ เพียงแค่แต่ละมื้อไม่ได้หรูหราอะไร แต่จันทร์แรมยอมรับว่า ทุกมื้อที่แม่ทำอาหารนั้น อร่อยมากๆ
ในขณะที่เทียม เติบโตมากับ พ่อแม่ที่มีเงินใช้จ่ายตลอด เทียม ไม่ใช่คนโง่ ค่อนข้างมีไวพริบหลักแหลม คุยโต้ตอบได้ฉับไว เทียม มีพ่อแม่ คอยสนับสนุนทุกอย่างไม่เคยขาด วัยรุ่นของเทียมมีแต่เรื่องเฮฮาปาร์ตี้ เทียมเป็นที่รักของเพื่อนๆ เพราะเป็นคนสนุก และเทียมก็รักเพื่อนๆทุกคน

เทียม พบรักแรก และแต่งงานในวัยรุ่น เรียกว่า เป็นวัยรุ่นปุบมีเมียปับเลย เทียมแต่งงานกับวันดี โดยวันดีมีพ่อเป็นครูใหญ่ โรงเรียนที่เที่ยมกับวันดีเรียนระดับมัธยมด้วยกัน ด้วยความที่ยังอายุน้อยกัน พ่อของวันดี เลยไม่ค่อยชอบเทียมนัก เทียมที่กำลังศึกษาอยู่ ม.6 ถูกพ่อของแฟนเรียกเข้าคุย บทสนทนาระหว่างเทียมกับครูใหญ่ ในวันนั้น ไม่มีใครทราบรายละเอียด แต่ เทียม ผลัก ครูใหญ่ ล้มลงกับโต๊ะ ทำให้ครูใหญ่โกรธเทียมมาก จึงสั่งพักการเรียนของเทียมไป เทียมซึ่งควรจะเรียนจบพร้อมๆ กับเพื่อน ก็ต้องไปหาที่เรียนใหม่ เพื่อเรียนจบให้ได้

ต่อมา เทียมได้แต่งงานกับวันดี ทั้งคู่ อายุไม่ถึง 20  และเทียมก็เริ่มทำงาน งานของเทียมเป็นงานที่ต้องเดินทางบ่อยๆ และตลอดเวลา ในปีต่อมา ในขณะที่เทียมอายุประมาณ 21 กว่าๆ วันดีก็ท้องลูกคนแรก และตั้งชื่อว่า บัวบาน เทียมเป็นคนรักเด็ก และรักสัตว์มากๆ เทียมตัดสินใจ เลิกบุหรี่ทันทีเพื่อลูกสาวของเขา ประมาณ 2 ปีต่อมา วันดีก็ตั้งท้องลูกอีกคนหนึ่ง ชื่อว่า ดอกบัว เหมือนๆ ครอบครัวก็อยู่กันเรียบง่าย เทียมเป็นเสาหลักของบ้าน แต่เทียมก็ยังมี พ่อและแม่ ที่คอยช่วยเหลือจุนเจือ ครอบครัว โดยการช่วยอุดหนุนเรื่องต่างๆ ให้ทาง ลูกๆ ของเทียม

พ่อและแม่ของเทียม ถือว่า เป็นคนชนชั้นกลาง ลุงเลิศ พ่อของเทียม ทำอาชีพ เป็นนักกฎหมายในบริษัทเอกชนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งถึงว่ารายได้ดีมากๆ ส่วนแม่ของเทียม ป้าฤทัย ก็เป็น คุณครู แม้เธอจะทำรายได้ไม่มาก แต่เธอบอกว่า เธอทำงานที่เธอรัก ป้าฤทัยชอบอ่าน เขียน และวาดรูปมากๆ ป้าฤทัยเหมือนสาวสมัยใหม่ในสมัยนั้นเลยทีเดียว ด้วยการแต่งกายของป้า ป้าฤทัยเป็นคนสวย แม้จะมีอายุ เธอก็ยังดูดี ตลอดเวลา ป้าฤทัยนั้นเรียนจบหลากหลายวุฒิฯมากๆ ถ้าเทียบกับคนรุ่นหลังๆ ป้าฤทัยบอกว่า เธอสามารถเป็นดอกเตอร์ได้เลย ถ้าเธอทำเรื่องขอให้เสร็จในตอนนั้น

ช่วงที่เทียมเริ่มเข้าวัย สามสิบกว่าๆ ลุงเลิศ ขอหย่า กับ ป้าฤทัย ช่วงนั้น สถานการณ์เริ่มอึมครึม เพราะป้าฤทัยไม่เคยคิดมาก่อนว่า ลุงเลิศ ผู้เป็นสามีจะมาขอหย่าร้าง ซึ่งในขณะนั้น ป้าฤทัยอายุ เกือบๆ 50ปี ความเสียใจและเสียหน้าทำให้ป้าฤทัยโกรธลุงเลิศมาก ถึงแม้ตอนนั้นเทียมจะไม่ได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจอะไร เพราะเทียมก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว และเรื่องของพ่อแม่ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาจะตัดสินใจแทนได้ เทียมได้แต่ มองดูอยู่ห่างๆ

ลุงเลิศ แสดงความรับผิดชอบ ที่ขอหย่าป้าฤทัยโดยการยกบ้านพร้อมที่ดินให้ทั้งหมด พร้อมทั้งเงินสดในบัญชี ซึ่งคนกล่าวขานกันว่า ป้าฤทัยสามารถใช้จ่ายได้สบายๆ ตลอดชีวิตของเธอเลยทีเดียว

ไม่กี่ปีต่อมา ลุงเลิศ ได้แต่งงานใหม่ กับป้าใบเตย ซึ่งอายุน้อยกว่าลุงเลิศ ประมาณ 15 ปี ป้าใบเตย ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในครอบครัวเทียมมากเท่าๆ กับลุงเลิศ และป้าฤทัย

ป้าฤทัย เริ่มประกาศหาคู่ตามหนังสือพิมพ์ และเริ่มเดทกับผู้ชาย ไม่นาน ป้าฤทัยก็แต่งงานใหม่ กับ ลุงปาน ซึ่งครอบครัวเทียมก็เข้าได้ดีกับลุงปาน แต่ทว่า ลุงปานอายุสั้น ขณะที่ว่ายน้ำนั้นหัวใจวาย และจมน้ำเสียชีวิต ทำให้ป้าฤทัยเสียใจอยู่ประมาณสองเดือน และประกาศหาคู่ใหม่ ป้าฤทัยก็ได้แต่งงานใหม่ในเวลาต่อมา แต่เกิดเหตุการณ์อะไร ไม่มีใครรู้ จู่ๆ ป้าฤทัย ก็หย่าร้างอีกรอบ การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นรวดเร็ว และจบปิดจ๊อบรวดเร็วเช่นกัน ทำให้ไม่มีใครรู้จัก สามีป้าฤทัยคนที่สองนี้เลย

ต่อมา ในเวลาไล่เลี่ยกัน ป้าฤทัยก็เจอคู่รักใหม่ ชื่อว่า รายำ โดยเขาอายุน้อยกว่าป้าฤทัยประมาณ 15 ปี ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นขี้ปากชาวบ้าน คือ หญิงมีอายุแต่งงานกับสามีเด็ก ตัวรายำก็เคยแต่งงานมากว่าสี่ครั้ง และมีลูกกับภรรยาเก่าทุกคน แต่มีลูกสาวคนเล็กของรายำ ที่อยู่กับรายำตลอด และป้าฤทัยก็ดูช่วยดูแลลูกสาวคนนี้ของรายำด้วยกัน

รายำ ถือว่า เป็น สามีที่อยู่กับป้าฤทัยนานที่สุด รายำไม่มีงานการที่มั่นคง ไม่มีหลักฐานหรือจารึกใดๆ ว่า รายำ เป็นสัปปะเหร่อจริงหรือไม่ หรือ รายำ ทำงานอะไร รู้แต่ว่า ป้าฤทัยยังคงเป็นครู และรับสอนเด็กพิเศษฯเป็นรายได้หลัก ของครอบครัว แต่มาไม่นาน มีพายุเข้า บ้านป้าฤทัยพังเกือบทั้งหลัง ป้าฤทัยกับรายำ ตัดสินใจตัดแบ่งขายที่ดิน ที่เป็นทรัพย์สินที่ได้จากการหย่าร้างลุงเลิศ เพื่อมาซ่อมบ้าน แต่ต่อมาไม่นาน ป้าฤทัยก็ตัดสินใจขายบ้าน ป้าฤทัยกับรายำ ไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ อยู่ที่ชนบท

ในขณะเวลาไล่เลี่ยกัน เทียมกับวันดี ก็เริ่มมีสัญญาณแห่งการเลิกรา วันดีต้องการหย่าร้างกับเทียม ซึ่งในตอนนั้น บัวบาน กับ ดอกบัว ก็เรียนจบระดับมหาวิทยาลัย และเริ่มทำงานกันแล้ว ช่วงนั้นเทียมได้ออกไปอยู่คอนโดฯ เพราะศาลฯ ให้ลองแยกกันอยู่ก่อนที่จะตัดสินใจหย่าร้าง

เกือบๆ สองปีที่เทียม แยกกันอยู่ วันดีก็ไม่มีท่าทีว่า จะยอมคืนดีด้วย วันดียังคงยืนยันว่า เธอต้องการหย่า และย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดของเธอ ในขณะนั้น ลูกๆ ของเขาทั้งสองก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้แม่คืนดีกับพ่อ หรือแม้แต่ลุงเลิศ ป้าใบเตย หรือ ป้าฤทัย ก็พยายามพูดให้วันดีเปลี่ยนใจ เพราะวันดีเธอเป็นสะใภ้ดีเด่นและเป็นที่รักของตระกูลซงอู้ 

แต่วันดีก็ ยืนยัน นั่งยัน อย่างหนักแน่น ว่าจะขอจบความสัมพันธ์กับเทียมให้ได้ ด้วยเหตุผลส่วนตัว

เทียมเห็นว่า วันดี ต้องการหย่าร้างจริงๆ เทียมเลยตัดสินใจ รับงานที่ต่างเมือง และย้ายไปทำงาน ซึ่งเป็นช่วงที่วันดีกับเทียม ต้องเซ็นต์ใบหย่ากันจริงๆ วันดีได้สิทธิ์ทุกอย่างที่ควรจะได้ คือครึ่งหนึ่งของสินทรัพย์ และทรัพย์สินที่ได้มาหลังจากแต่งงาน แต่เป็นที่รู้จัก ว่าเทียมนั้นแต่งงานกับวันดี ตั้งแต่ยังเด็ก แล้วจึงเริ่มทำงาน ดังนั้นตลอดชีวิตการทำงานของเทียม ก็คือ ตลอดเวลาที่แต่งงานกับวันดี

วันดีไม่ต้องการบ้าน เทียมจึงตัดสินใจซื้อบ้าน(ของตัวเอง) ในส่วนของวันดีคืน ตอนนั้น เทียมถือว่า แทบจะไม่มีเงินเก็บในธนาคารเลย แถมเป็นหนี้สินค่าซ่อมบ้านที่โดยพายุลูกเดียวที่พังบ้านป้าฤทัย โดยเทียมต้องรับภาระเองทั้งหมด งานใหม่ของเทียมเสมือนการเริ่มตั้นเก็บเงินใหม่ทั้งหมดของเทียม ในวัยสี่สิบปลายๆ ถือว่า เทียมมีทรัพย์สินเหลือติดตัวน้อยมาก ถ้าเทียบ กับ ชายในวัยเดียวกัน

บ้านที่เทียม ซื้อคืนมาจากวันดี เทียมก็ไม่ได้อยู่ เพราะเทียมไปทำงานที่ใหม่แล้ว วันดีก็เลยอยู่อาศัยที่บ้านของเทียมเนียนๆ ต่อมาอีกสองสามปี โดยไม่ต้องจ่ายอะไรให้เทียม

แต่นั่น มันคือน้ำใจระหว่างคนเคยรักกัน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกันมา แถมเป็นแม่ของลูก ๆ ของเทียม เทียมก็เลยไม่ได้ต้องการให้วันดีตอบแทนอะไร

เทียม กลับมาเป็นหนุ่มโสดวัย40ปลายๆ ซึ่งถือว่า ไม่มีอะไรเสียหายตอนนั้นถ้าจะเริ่มต้นใหม่ เทียมมีความกระล่อน เพราะเป็นคนขี้เล่น สนุกสนานเป็นทุนอยู่แล้ว ยิ่งโสด เทียมก็ยิ่ง เปิดโอกาสให้ตัวเองให้คุยกับสาวๆ มากขึ้น เทียมเริ่มคุยกับสาวคนแรก เธอายุ 40 ต้นๆ เทียมดูสดใส และกระปรี้กระเปร่า จนเพื่อนร่วมงานสังเกตุเห็นได้ชัด เทียมคบผู้หญิงคนแรกในเวลาสั้นๆ และเลิกลากันไป เทียมก็เริ่มคบกับคนใหม่อีกคนโดยการแนะนำเพื่อน เธอชื่อ รินยา โดยเธอเป็นสาวสังคมที่ชอบกีฬากอล์ฟมาก ๆ ดูเหมือนเทียมกับรินยาจะคบกันได้เกือบๆ ค่อนปี แล้วเทียมก็เริ่มตีตัวออกหาจาก รินยา ก่อนที่เทียมจะเริ่มคุยกับ จันทร์แรมในเวลาต่อมา

20 กพ 2025
ถ้ามีใครหลงมาอ่าน ขอสักเสียงสองเสียง ว่าอยากอ่านต่อนะคะ…จะได้มีกำลังใจแต่งนิยายเรื่องนี้ต่อค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up