เกาะกูด 2568 ตอนที่ 1 แว่ะนอนตราด

ในที่สุด พวกเราก็ได้ไปเกาะกูดสักที หลังจากเมื่อ10ปีที่แล้ว มีคนจอดรถไม่ปลดเกียร์ว่างขวางรถพวกเรา จนไปไม่ทันเครื่องบินฯ
คราวนี้ เราเลยแว่ะนอนตราดด้วย เพราะนัดเจอเพื่อนๆที่ตราดด้วย

ทีแรกเรากะว่า จะเดินทางจาก กทม ด้วย สายการบินบางกอกแอร์ แต่ ค่าตั๋วเครื่องบินเฉลี่ยคนละ 8000บาท (สองคนก็ 16,000บาท) แถมเราต้องเสียเงินจากสนามบินไปที่ท่าเรือ หรือ ไม่ก็ รร ต่อ อยู่ดี ก็เลยเหมารถเลยดีกว่า เขาคิดเที่ยวละ 4000บาท ไปกลับก็ 8000 บาท ใช้เวลาเดินทางจาก กรุงเทพฯ ถึงที่หมาย ก็ประมาณ 5 ชม

แต่จริงๆ ก็มีทางเลือกอื่นๆ อีกด้วยเช่น นั่งรถตู้ หรือ รถบัสจาก กทม ซึ่งก็มีหลายบริษัท โดยเฉพาะของบุญสิริเอง ก็มีบริการพร้อม นั่งรถ ต่อเรือ หรือ ที่พักเพิ่ม ได้หมด

เริ่มจากตอนที่ออก จาก กทม มาถึงแถวจันทรบุรี ก็เกือบ เที่ยง พวกเราหิว ก็แว่ะทานก๋วยเตี๋ยวกันก่อน โดยคนขับรถแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ก็ไม่ได้จำชื่อร้านมา แต่ เย็นตาโฟ อร่อยมากๆ โดยน้องคนขับรถบอกว่า ก๋วยเตี๋ยวแห้งเขาก็อร่อยมาก จริงๆ เราก็แอบสังเกตุโต๊ะข้างที่เขาก็สั่งแต่ก๋วยเตี๋ยวแห้งกันหมดเลย ก็แอบเสียดายที่ไม่ได้ลอง…

โดยส่วนใหญ่เราก็จะแว่ะปั้มเข้าห้องน้ำ เข้าเซเว่นฯ กับ ร้านอเมซอน ตลอดทาง มาถึง โรงแรมอเวด้า ก็เกือบบ่ายสอง โชคดีที่เขามีห้อง เขาก็ให้เข้าห้องพักได้เลย วันนี้เรานัดเพื่อนๆ ไปนั่งเรือ กับทานอาหารเย็นด้วยกัน…

นั่งเรือวันนี้ เราไปที่ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว เป็นชุมชน “2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม” คือ ศาสนาพุทธ-อิสลาม และวัฒนธรรมไทย-จีน-มุสลิม การนั่งเรือชมป่าโกงกางสามารถติดต่อที่ด้านหน้าได้เลย โปรแกรมที่พวกเรานั่งเรือวันนี้ มีค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 100 บาท ใช้เวลาล่องชั่วโมงกว่า ๆ รวมปล่อยปู กับปล่อยแมงดาด้วย (ซึ่งน้องๆในชุมชนเขาแนะนำ เราก็ทำตามเท่านั้น)
เรามานั่งเรือตอนเย็นคือหลัง 5โมงเย็น ในเดือน เมษา ก็เลยไม่ค่อยร้อนมาก แต่น้ำลงแล้ว ทำให้เราเข้าไปในอุโมงค์ป่าโกงกางไม่ได้ คุณตาคนขับเรือ พาพวกเราไปถึงปากอ่าวไทย โดยมีหลานชายตัวน้อยเป็นล่ามคอยบอกรายละเอียดให้พวกเราฟัง
ที่อเมซิ่งสำหรับพวกเรามากๆ นั้นก็คือ การชมเหยี่ยวแดง ซึ่งบินโฉบหนังหมูที่ร้านอาหาร (ทิวทารา)โยนมาให้เหยี่ยวทาน เขาบอกว่า ทางร้านอาหารจะเป่านกหวีดเรียกก่อน แล้ว ก็โยนหนังหมูให้เหยี่ยวทาน
พวกเราชอบความธรรมชาติ บวกกับ การนั่งเรือที่นี่ เขาไม่รีบเร่ง เหมือนยินดีให้บริการ ขับชมไปเรื่อยๆ ถามพวกเราตลอดว่า พร้อมไหม ยังไง? เหมือนไปเที่ยวบ้านเพื่อนแล้ว ครอบครัวเพื่อนพาเรานั่งเรือเล่น…
ล่องเรือเสร็จแล้ว เดินมาถ่ายรูปต่อที่สะพานวัดใจ เป็นสะพานที่โค้งสูงและชันมากๆ

โดย รูปส่วนใหญ่ คนจะถ่ายกับเงาสะท้อนของสะพานในน้ำ ซึ่งทำให้ดูเหมือนดวงตากลมโต…

ตอนนี้ หิวข้าวกันมาก เพื่อนพาไปทานร้าน ทิวธารา ตอนแรกเราเห็นร้านอาหารติดแม่น้ำ แต่พอขับรถก็เข้าซอยลึกเหมือนกัน ทางร้านอะไรดีหมด แต่ถ้าอยากจอดรถติดร้านอาหารต้องเสียค่าจอดรถ 20บาท เพราะไม่ใช่ที่ของทางอาหาร หรือไม่ก็จอดไกลหน่อย ทางร้านมีรถลางรับส่ง (แต่เราก็ไม่แน่ใจอยู่ดี ว่าเสียค่าจอดรถไหม เห็นแว่บๆ 20บาท)

เรามาถึงประมาณ 1ทุ่ม ร้านนี้ดังเรื่องปูแกะ แต่ตอนนั้นปูเหลือน้อยแล้ว ประกอบกับ พวกเราไม่ใช่แฟนพันธ์ุปู พวกเราชอบปูนิ่มก็เลยสั่งแต่ปูนิ่มแบบไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่น แต่ ทุกเมนูนั้นอร่อยมากๆ แล้วแค่สั่งข้าวผัดปูก็ได้เนื้อปูมาเยอะมากแล้วด้วย

การมาเที่ยวตราดครั้งนี้ สนุก และอร่อยมากๆ นอกจากนั้น ยังได้เจอเพื่อนอ่ะห์ กับเพื่อนดวง โดยเฉพาะเพื่อนดวงที่ไม่ได้เจอกันมากว่า 30ปี แต่ พอเจอกันปุบ ก็ต่อกันติดปับ ดวงมีร้านขนมและของฝากในตราด สนใจ ติดต่อ ที่ ดวงตะวัน ขนมปังกรอบ ได้เลย

 

 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Scroll Up