English Version!
ทำไมต้องเฉิงตู เพราะเราต้องไปที่เฉิงตู (อ้าว คือว่ามีธุระพอดี ก็เลยแว่ะเที่ยวเลย)
เฉิงตู เป็นเมืองเอกของมณฑลเสฉวนในปัจจุบันเป็นทั้งศูนย์กลางด้านการเมือง การทหาร และด้านการ ศึกษาของภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ เฉิงตู เป็นเมืองใหญ่ที่น่าท่องเที่ยวติดอันดับของจีน เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์หมีแพนด้า แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในตัวเมืองเฉิงตู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และห่างจากตัวเมืองออกไปเป็นแหล่งธรรมชาติ…
ระยะเวลาทั้งหมดในการเดินทางครั้งนี้ 7 วัน สามวันแรกใน เฉิงตู ก่อนที่จะบินไปที่ซีอาน เมืองหลวงของมณฑลส่านซี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีนเป็นเวลาสองวัน และกลับมาต่อที่เฉิงตูอีกสองวัน ด้วยความโลภ อยากไปหลายที่ โปรแกรมทัวร์เราก็เลยค่อนข้างเยอะอย่างเช่นนี้แล…
*อัตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ในเรื่องนี้คือ 5 บาท ต่อ 1 CNY หรือ RMB (คือตัวเดียวกัน คือ หยวนค่ะ)
ก่อนอื่นต้องขอบอก่อนว่า เป็นการเล่าเรื่องโดยไม่ได้มีเจตนาใดๆ ถ้าหากมีการกล่าวเรียก “คนจีน” บ้าง เพราะเป็นความรู้สึกที่ได้พบชาวจีนมาในแบบฉบับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่ได้เจตนาไม่ดีค่ะ
โปรแกรมทัวร์โดยรวม ส่วนที่อยู่ในสีเหลืองเป็นส่วนที่ซื้อกับบริษัททัวร์ที่จีน http://www.discoverchinatours.com คือที่นี่เขาดีอย่าง เขาตอบอีเมล์เร็วมาก ถามอะไรก็ตอบ ให้แนะนำอะไรเขาก็รีบหาข้อมูลให้ ราคาสมเหตุสมผล ไกด์ภาษาอังกฤษดี ตรงเวลา รับผิดชอบหน้าที่ (แล้วจะกล่าวถึงในวันถัดๆ ไปค่ะ)
วันที่1 กรุงเทพฯ – เฉิงตู
เที่ยวนี้เราเดินทางด้วยเที่ยวบินของการบินไทย (ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ อยู่ที่ประมาณ 14,xxx บาท) ออกเดินทางไปสนามบินตอนเกือบ 8 แปดโมงเช้าเพราะว่า เครื่องออก 10.15น. ช่วงที่รอเวลาขึ้นเครื่อง ทำให้รู้ว่าคนจีนมาเที่ยวเมืองไทยเยอะมาก เพราะคนจีนเดินทางกลับประเทศเยอะมาก แต่ว่าเห็นคนไทยกับฝรั่งไม่กี่คนเอง แต่วินาทีแรกที่เรียกขึ้นเครื่องก็ทำให้รู้ว่า คนจีนต่อแถวไม่เป็น…
และวินาทีที่เครื่องลงจอดก็ยิ่งทำให้รู้ชัดเจนเข้าไปอีก เพราะว่า คนจีนที่นั่งอยู่แถวหลังของเครื่องต่างก็กรูออกมากแซงหน้าเราไปเลย!!!
(ภาพแอบโกลาหลขณะที่ผู้โดยสารกำลังจะลงจากเครื่องบิน เราอยู่แถวหน้าๆ แต่แถวหลังวิ่งมาแบบไม่หยุดเลย งงมาก!)
สนามบินเฉิงตูไม่ได้ใหญ่มากเท่ากับที่ปักกิ่ง ก็เลยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองโดยใช้เวลาไม่นานนัก หลังจากรับกระเป๋าก็มีคนขับรถจากบริษัททัวร์ยืนถือป้ายรอรับ…
คนขับรถ คนนี้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่สิ่งแรกที่คนขับรถพยายามจะพูดคือ “จ่ายเงินที่เหลือ (70%) มาซะดีๆ…” เพราะเรามัดจำผ่านเน็ตไป 30% แล้วบริษัทเขาบอกว่าให้เราจ่ายอีก 70% กับคนขับรถในวันแรก แต่ไม่นึกว่า ฉันจะต้องจ่ายก่อนที่จะขึ้นรถนะเนี่ย! แต่แม้ว่าเราพยายามจะบอกว่า ไปจ่ายที่โรงแรมได้ไหม? (เพราะเงินอยู่ในกระเป๋าเดินทาง มันหยิบลำบาก) แต่เหมือนกับว่า ถ้าไม่จ่าย เขาคงไม่ออกรถแน่ เราก็เลยต้องเปิดกระเป๋าและเอาเงินให้เขาไป
เมื่อท่านคนขับรถได้รับเงิน และนับจนครบสาสมแก่ใจแล้ว ก็เห็นมายิ้ม และก็ให้ใบเสร็จก่อนที่จะเริ่มขับรถ ยอมรับว่าเราก็กลัวเขาชิ่งเหมือนกัน โรงแรมก็ยังไม่ได้เช็คอิน เที่ยวก็ยังไม่ได้เที่ยว แต่จ่ายหมดเลยวันแรกอ่ะ (แต่ว่า หลังๆ จะเข้าใจ เพราะว่าร้านอาหารคนจีน จ่ายก่อน เสิร์ฟทีหลัง…)
คืนแรก เป็นโรงแรมที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์คือ Yinhe Dynasty Hotel โรงแรมนี้สวยโอ่อ่า สะอาด อาหารเช้าหลากหลาย คิดว่าน่าจะประมาณ 4 ดาว และที่พวกเราชอบไปกว่านั้นคือ ที่ตั้งโรงแรมอยู่ในย่านช็อปปิ้งที่ดังที่สุดของเฉิงตู คือ Chunxi Pedestrian Road แต่ส่วนมากจะเป็นเสื้อผ้า ของใช้ที่มียี่ห้อ และก็ของกินของฝากมากมาย (โดยเฉพาะอะไรๆ ที่เกี่ยวกับหมีแพนด้า ที่นี่จะถูกว่าที่ช็อปที่สวนสัตว์ และถูกว่าที่สนามบินหลายเท่า!)
เงินเยอะ แต่ซื้ออะไรไม่ได้เลย เพราะว่าพูดภาษาจีนไม่ได้อ่ะ!
วันแรกไม่มีอะไรมาก ได้ซื้อเสื้อมาตัวเดียว เพราะดันถามว่ามี ไซส์เล็กสุดไหม? แม่ค้าพากันกรูวิ่งหากันจ้าละหวั่น สุดท้ายก็ต้องซื้อเพราะว่าเกรงใจ กลัวโดนแม่ค้ารุม เพราะมีกันประมาณเกือบ 10 คน!
บริเวณรอบๆ Chunxi shopping Street…อะไรๆ ก็ดี แต่ว่าหาอาหารทานค่อนข้างลำบาก เพราะว่าเมนูเขาเป็นภาษาจีนหมดเลย
แม้แต่อาหารฟาสต์ฟูด อย่าง KFC ก็เหอะ พนักงานก็ไม่พูดภาษาอังกฤษเลยสักคำ เราเลยใช้วิธีสั่งโดยการจิ้มๆ รูปภาพเอา กว่าจะได้กินก็ลำบ๊าก ลำบาก…
แต่ถ้าชอบช็อปปิ้ง หรือมีเวลาเดินเล่นๆ สักวัน อาจจะเดินเข้าไปตามห้างที่เป็นตึกอยู่รอบๆ ถนนช็อปปิ้งแห่งนี้ก็ได้ บางตึกก็ราคาสมเหตุสมผล แถมต่อได้ด้วย อย่างเช่นกระเป๋าเดินทาง (ที่ดันมาล้อพังเอาที่นี่ ก็เลยต้องซื้อใหม่) ตอนแรกแม่ค้าบอกราคาที่ 1035Y แต่จะลดให้ 20% เลย แล้วพอเหลือ 800กว่าๆ ก็จะลดให้อีกยังงั้นยังงี้ สุดท้ายต่อกันไปลดกันไปเราก็เลยได้กระเป๋าเดินทางใบใหม่ที่ราคา 400Y อ่ะนะ แล้วจะบอกเผื่อต่ออะไรให้มากมายเนี่ย?
แต่ที่เห็นแล้วแอบยิ้มพร้อมกับอดสงสัยไม่ได้ ก็เด็กน้อยๆที่มากับผู้ปกครองที่นี่สิ ต่างก็นุ่งกางเกงมีรูที่ก้นกันทั้งนั้น!
(ภาพซ้าย) แว่บๆ แล่บๆ ก็ยังแอบเห็นตลอด ตอนแรกกะว่าจะซื้อกางเกงเด็กกลับมาสักชุด น่ารักดี^^
(ภาพขวา) ล้อเล่น ขำๆๆ นะคะ เพราะว่า ไม่รู้ด้วยเหตุอันใด ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ที่ไหน ยังไง เขาก็ชอบขาก และก็ถุยกันดังเกรียวกราว แถมไม่ถุยลงถังขยะด้วยอะคะ (ไม่อยากเล่าถึงรูปพรรณสัณฐานของของที่ถุยออกมาเลยอะ บอกได้คำเดียวว่า “สี ไม่ธรรมดา”!!!
เดินตั้งนานไม่ได้ซื้ออะไรสักอย่าง แต่ที่ถนนช็อปปิ้งแห่งนี้ เปิดทุกวัน ประมาณ 10โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม
ขอกล่าวถึงศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าต่อที่นี่เลย คืออย่างที่เกริ่นๆ ไว้ค่ะ ว่าเมืองเฉิงตู เป็นศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า โดยมีเนื้อที่ถึง 600,000 ตารางเมตร ทางตอนเหนือของเมืองเฉิงตู (ประมาณ 30 นาทีจากตัวเมืองเฉิงตู) สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1987 ซึ่งใช้เป็นศูนย์เพาะพันธุ์และอนุรักษ์รวมถึงใช้เป็นสถานที่ศึกษาหมีแพนด้า เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่จะศึกษาระบบนิเวศน์ , การอยู่อาศัยและการแพร่พันธุ์ของหมีแพนด้า
จริงๆ เราไปที่ศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้าวันสุดท้ายที่บินกลับมาจากซีอาน ไปกันเองค่ะ โรงแรมเรียกแท็กซี่ให้ราคาไปกลับ 300Y (จริงๆ ถ้าคิดตามมิเตอร์แท็กซี่จะถูกกว่ามาก แท็กซี่ที่นี่เริ่มที่ 8Yเท่านั้น แต่พนักงานโรงแรมแนะนำว่า ให้เหมาดีกว่า เพราะขากลับจากศูนย์จะหาแท็กซี่ยาก ให้เขารอดีกว่า และก็จริง ขากลับเรามีรถแท็กซี่รอ แต่คนอื่นรอเรียกแท็กซี่กันเป็นแถว)
ส่วนค่าเข้าชมที่ศูนย์ฯ แห่งนี้ สำหรับผู้ใหญ่คนละ 58Y (290 บาท) สำหรับเด็กนักเรียนจ่ายครึ่งราคาของผู้ใหญ่ค่ะ
เคยอ่านนิตยสารมาฉบับหนึ่ง แต่ก็ดันไม่ได้จดไว้ว่านิตยสารอะไร ว่ากันว่ามนุษย์เพิ่งรู้จักหมีแพนด้า หรือ Giant Panda หรือ ต้าสงเมา เมื่อ 140ปีมานี่เอง คนแรกที่เอาเรื่องราวของแพนด้าไปเผยแพร่จนเป็นที่รู้จักกันในยุโรปและดังไปทั่วโลกคือ มิชชันนารีชาวฝรั่งเศษชื่อ คุณพ่อฒอง ปิแอร์ อาร์มองด์ ดาวีด์ โดยเล่าว่า ตอนเขาอยู่ที่เมืองหย่าอัน มณฑลเสฉวน ในปี พ.ศ. 2412 เขาเห็นพรานยิงหมีได้ตัวหนึ่ง มีลายขาวสลับดำ น่าอัศจรรย์นัก!
ด้วยเหตุที่หมีแพนด้าเป็นสัตว์ที่พบได้เฉพาะประเทศจีนเท่านั้น (ก็บ้านเกิดเจ้าช่วงช่วง กับ หลินฮุ่ย นั่นแหล่ะ) ด้วยลักษณะนิสัยแบบ นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน ของเจ้าหมีแพนด้า เราจะเห็นแค่ว่า เจ้าหมีแพนด้านใช้เวลาส่วนใหญ่กับการนอน แต่ถ้าตื่นมาเมื่อไรก็จะกินทันที โดยจัดเป็นสัตว์กินจุที่สามารถกินต้นไม้ไผ่ได้วันละ 50 กิโลกรัมเลยทีเดียว
ศูนย์นี้ใหญ่มากค่ะ เขาบอกว่ามีพื้นที่ทั้งหมด 9,245 ตร.ม. แต่ไม่แน่ใจว่าเดินไปจริงๆ ไปเท่าไร เพราะว่า กล้างใหญ่มากๆ จริงๆ
นอกจากนี้ ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าเสฉวน ยังเป็นบ้านของสัตว์ใกล้ศูนย์พันธุ์หลากหลายสายพันธุ์อื่นๆ เช่น เสือดาวหิมะ เสือลายเมฆ และแพนด้าแดงอีกด้วย และว่ากันว่า ด้วยความอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์นานาชนิดในศูนย์ฯแห่งนี้ ที่มีประมาณ 5,000 ถึง 6,000 สปีชีส์ ที่มีความใกล้เคียงกับป่ายุคเทอร์เชียรี ซึ่งเป็นยุคเมื่อ 65ล้านปีที่แล้ว ยุคนี้เป็นยุคที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์เลี้ยงด้วยนม ภูมิประเทศที่เป็นทุ่งหญ้าก่อนที่จะโดนอุกกาบาตพุ่งชนโลก จนเจ้าพวกไดโนเสาร์สูญพันธ์…
สรุปคือว่าเป็นศูนย์ฯ ที่ใหญ่ และมีความเป็นธรรมชาติจริงๆ ค่ะ คิดว่าห้ามพลาดเด็ดขาดถ้ามาเฉิงตูก็น่าจะแว่ะมาดูความน่ารักของเจ้าหมีแพนด้านะคะ เพราะปัจจุบัน เจ้าแพนด้ายักษ์เป็ฯหนึ่งในสัตว์สายพันธ์ุที่ใกล้สูญพันธุ์มากที่สุดในสายพันธุ์หนึ่งของโลก!!!
อ่านต่อ วันที่2 เฉิงตู ถึง เล่อซาน สักการะหลวงพ่อเล่อซาน
(มีทั้งหมด 5 วันสำหรับทริปนี้ค่ะ)