Temple of heaven and Acrobat Show
โปรแกรมทัวร์วันแรกในปักกิ่ง ต่อจากทัวร์จตุรัสเทียนอันเหมิน และ พระราชวังต้องห้ามในตอนเช้า หลังจากแว่ะทานมื้อเที่ยงที่รวมในทัวร์แพคเกจ ไกด์ก็พาเราไปต่อที่ หอบูชาเทียนถานค่ะ
หอบูชาเทียนถาน (Temple of heaven) ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของกรุงปักกิ่ง หอฟ้าเทียนถานนี้ สร้างขึ้นมาตั้งแต่ค.ศ.1406 ถึง ค.ศ.1420 เป็นช่วงเวลาสร้างใกล้เคียงกับการสร้างพระราชวังโบราณ ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะที่มีเนื้อที่ 1,700 ไร่ เป็นสวนรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ชาวพื้นเมืองที่นี่นิยมมาออกกำลังกาย และประลองหมากรุกกันค่ะ โดยเราเห็นชาวพื้นเมืองนั่งต่อแถวเล่นหมากรุกกันยาวเหยียด…
เริ่มเดินเข้าไปในสถานที่ ก็เจอชาวพื้นเมืองกำลังออกกำลังกายกันเป็นกลุ่มก้อนค่ะ โดยเฉพาะ ยิ่งเขาเห็นเราเป็นนักท่องเที่ยว (มากับไกด์) เขาก็ชวนให้เราเล่นด้วยค่ะ
อย่างเรา โดนชวนเล่นอะไรไม่รู้ เป็นห่วงนิ่มๆ ลุงคนโยนให้ ให้เราเอาหัวคล้องรับให้ได้ค่ะ เอ่อ…มันสนุกตรงไหนค่ะ??? แต่ก็แปลกและรู้สึกดีที่เขาชวนให้เล่นด้วยค่ะ
ส่วนอันนี้ต้องชวนผู้ชายเล่นค่ะ เพราะว่า เห็นเจ้าลูกบอลนั่นไหมค่ะ ไม่ใช่ลูกปิงปอง หรือลูกเทนนิสแต่อย่างใดค่ะ เป็นลูกบอลหนักๆ คล้ายๆ มีทรายอยู่ข้างใน เวลารับลูกบอลต้องทำท่าช้อนรับ แล้วค่อยๆส่ง คิดว่าเป็นการเล่นแบบรำมวยจีนค่ะ คนมุงดูกันเต็มตอนที่เขาชวนพวกเราเล่น แต่พอเล่นเสร็จก็เดินจากกันไปเฉยๆ โดยที่ไม่รู้ว่าเขาจะขายของหรือเปล่า? แต่เขาก็ไม่ได้กดดันอะไรนะคะ…
เดินเข้าไปกันต่อที่หอบูชาฟ้าเทียนถาน ซึ่งเป็นหอทรงกลมขนาดใหญ่โต มองเห็นเด่นชัด แต่วันนี้เขากำลังถ่ายทำหนัง หรือสารคดีกันอยู่ค่ะ เลยได้บรรยากาศอีกแบบนึง
หอบูชาฟ้าเทียนถานนั้น ตัวหอมีเส้นผ่าศูนย์กลางยาว 36 เมตร และ สูง 38 เมตร สร้างเป็นแบบอาคารไม้ทรงกระบอกแต่มิได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว นับเป็นกลุ่มสิ่งปลูกสร้างสำคัญที่ยังคงสภาพความสวยงาม ขนาดใหญ่โตและสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของจีนโดยมีชื่อเสียงไปทั่วโลกด้วยแบบการก่อสร้างและสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หอฟ้าเทียนถานจึงได้รับลงทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2541 (ค.ศ. 1998)
จากนั้นไกด์ก็พาเราเดินชมสถานที่ต่างๆ ภายในวัดแห่งนี้ค่ะ เดินกันเหนื่อยมาก เพราะว่า พื้นที่เขากว้างจริงๆ ค่ะ
ไกด์ของพวกเราค่ะ เดินนำ และให้ข้อมูลพวกเราตลอดทริป เป็นไกด์ที่ไว้ใจได้จริงๆ ค่ะ คอยช่วยพวกเราด้วยว่า ราคาไหนแพงเกินความเป็นจริง ก็พยายามจะบอกราคาที่ควรต่อรองให้พวกเราค่ะ จนบางครั้งไกด์โดนคนขายของต่อว่าเป็นภาษาจีน ซึ่งพวกเราก็ฟังไม่ออก แต่ก็ดูออกจากท่าทางค่ะ
มาหยุดที่แท่นบวงสรวงฟ้า (The Circular Mound Altar) เป็นเนินวงกลมสูงจากระดับพื้น 5 เมตร แยกออกเป็น 3 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2073 ในสมัยของฮ่องเต่เจียจิ้งแห่งราชวงศ์หมิง แต่มาปรับปรุงขยับขยายให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้นในสมัยของฮ่องเต้เฉียนหลงแห่งราชวงศ์ชิงเมื่อ พ.ศ.2292 ใช้เป็นสถานที่ที่ฮ่องเต้มาประกอบพิธีบวงสรวงสักการะฟ้าหรือสวรรค์เมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ล้อมรอบด้วยรั้วหินหยกขาว แกะสลักเป็นลวดลายเมฆและมังกร ไกด์บอกเราว่าให้เราไปยืนด้านบนตรงวงกลมแล้วอธิษฐานค่ะ เขาว่าตรงนั้นเป็นแกนกลางของโลกมนุษย์และสวรรค์
เวลายืน ต้องกระโดด และขย่มๆ บนแท่นกลมๆ ด้วยนะคะ เป็นการปลุกสวรรค์ให้ตื่นมาฟังคำอธิษฐานค่ะ…แปลกดี แต่ไม่ทันได้อธิษฐานอะไรค่ะ
ทัวร์หอบูชาฟ้าเทียนถาน ก็จบลงตรงนี้ค่ะ วันนี้ตอนเย็น เรามีดูโชว์กายกรรมปักกิ่งต่อ โดยพวกเราขอเพิ่มจากแพคเกจทัวร์ที่เราซื้อไว้ เพราะเห็นโบร์ชัวร์ที่โรงแรม เลยให้ไกด์จัดการซื้อตั๋ว เลยเสียราคาเต็มๆ ไปเลยค่ะ คนละ $30 หรือ 900 บาท
กายกรรมปักกิ่ง (Beijing Acrobat Show) เป็นการแสดงความสามารถของนักแสดงในการโชว์หวาดเสียวและความยืดหยุ่นของร่างกาย มีการแสดงหลายหลายชุดแต่ละการแสดงจะแตกต่างกัน เช่น โชว์หมุนจาน โชว์ควงของ เป็นต้น แต่ที่สนุกและตื่นเต้นที่สุดคือการขับมอเตอร์ไซค์หลายๆคัน ขับวนอยู่ในกรงเหล็กกลมๆ ขับวนไปมาคล้ายรถมอเตอร์ไซต์ไต่ถัง แต่สำหรับพวกเราเป็นโชว์ที่ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไร โดยรวมแล้วไม่ได้ตื่นเต้น หรือหวาดเสียวเท่าที่วาดหวังไว้ ถ้าเขาจัดรวมไปในแพคเกจทัวร์ก็คุ้มค่ะ แต่ถ้ามาซื้อตั๋วราคาเต็มเอง ก็ไม่ค่อยคุ้มราคาเท่าไร (ถ้าต้องเลือก ชอบโชว์กังฟู มากกว่าค่ะ) แต่ถ้าเป็นทัวร์ครอบครัวมีเด็กๆ ไปด้วยก็น่าสนใจค่ะ…
จบทัวร์วันนี้ แต่ยังมีทัวร์ที่น่าสนใจในปักกิ่งอีกมากมาย ถ้าจะตามรอยพวกเรา พรุ่งนี้เราไม่ได้ซื้อทัวร์ค่ะ อยากเที่ยวเองแบบไม่ง้อทัวร์ แบบเที่ยว ชิม ช้อปที่ถนนช้อปปิ้งหวางฟู่จิ้ง จากนั้นก็ลองขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินไปสวนสัตว์ปักกิ่ง ก่อนที่จะลองนวดแผนจีน กันค่ะ
