English Version (Trip from Pai to Mae Hong Sorn 1/2, 2/2)
ต่อจากความตอนก่อน ทริปจากปาย ไป แม่ฮ่องสอน 1/1
เรายังเหลือ 6 ที่หลักๆ ที่อยู่ในแพคเกจทัวร์ รถตู้จากปายมาตัวเมืองแม่ฮ่องสอนค่ะ
เริ่มต่อกันที่ ที่เที่ยวที่ (4) น้ำตกผาเสื่อ ถ้าบอกว่าเป็นน้ำตกสัญชาติพม่า ก็คงไม่แปลก เพราะว่าน้ำตกแห่งนี้ไหลมาจากน้ำตกแม่สะงา ในประเทศพม่า!
น้ำตกแห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดในเมืองแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะในฤดูฝนค่ะ และที่ได้ชื่อว่าน้ำตกผาเสื่อเพราะว่าสองข้างของน้ำตกมีแผ่นหินลักษณะคล้ายเสื่อปูลาดอยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งยังมีปลาจำนวนมาก ว่ายกันให้เห็นตัวเป็นๆ ใกล้ๆ อย่างเป็นกันเองกันนักท่องเที่ยวอีกด้วยค่ะ
มีใครทราบบ้างไหมค่ะ ว่า มีบ่อโคลนแบบธรรมชาตินี้เพียง 3 แห่งในโลก และหนึ่งในนั้น ก็คือ ที่แม่ฮ่องสอน ประเทศไทยของเรานี่แหล่ะค่ะ
ภูโคลน เกิดในบริเวณที่มีแหล่งความร้อนใต้พิภพและมีรอยเลื่อนขนาดใหญ่ ทำให้น้ำที่อยู่ใต้ดินเคลื่อนที่ขึ้นสู่ผิวดิน โดยเป็นโคลนเดือดบริสุทธิ์สีดำขึ้นมาพร้อมกับสายน้ำแร่ธรรมชาติใต้ดิน ที่สะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถันซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาติที่เป็นประโยชน์ต่อหนังหน้า เอ้ย ผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ (โดยเฉพาะมนุษย์ผู้หญิงอย่างเราๆ ค่ะ…!)
แบบนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว เขามีบริการให้ได้ลองกันสดๆ จากบ่อด้วยค่ะโดยเขาให้ล้างหน้าก่อนค่ะ แล้วจะมีพนักงานพอกหน้าเราด้วยโคลนธรรมชาติทั่วหน้า
โดยราคาพอกหน้า หน้าละ 60 บาท แต่ถ้าให้ดีต้องแช่เท้าน้ำแร่ร้อนด้วยอีก 20บาท(สองข้าง)เวลาในการทำควบคู่กันไปก็ 15 นาที พวกเราเลยกลายเป็นหมีแพนด้า นั่งเอาเท้าแช่น้ำร้อนกันเป็นทิวแถวค่ะ
น้ำแร่ที่แช่เท้าร้อนมากจริงๆ ค่ะ เท้าแดงเลย ส่วนหนังหน้าพวกเราก็ตึงมากๆ เพราะว่าโคลนเริ่มแห้งแล้วค่ะ
จำได้ว่ามีสิวอยู่เม็ดนึง พอล้างโคลนออก สิวกระเด้งหายไปเลยอ่ะ!!!
หากสนใจเขาก็มีขายด้วยนะคะ แต่ถ้ายังไม่มีโอกาสไปถึงแม่ฮ่องสอน ก็สามารถหาข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ http://phuklon.co.th/ มีข้อมูลของตัวแทนจำหน่ายในกรุงเทพฯ ด้วยนะคะ
ล้างหน้าแล้วหน้าก็ยังตึงๆ แต่เขาจะฉีดน้ำแร่ให้ด้วย โชคดีที่เราเตรียมพร้อม พกครีมทาหน้ากับครีมกันแดดมาด้วย จะได้ไปกันต่อไปที่
เท่าที่รู้มาที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวอีกสองที่ ที่บ้านน้ำเพียงดิน และ บ้านในสอย ซึ่งจะห่างจากตัวเมืองไป แต่เป็นธรรมชาติสุดๆ
แต่ หมู่บ้านกระเหรี่ยงบ้านห้วยเสือเฒ่าแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่อยู่ใกล้เมืองมากที่สุด รถยนต์สามารถเข้าถึง กะเหรี่ยงคอยาวที่นี่จะมีประมาณ 20 หลังคาเรือน อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามาอยู่ที่แม่ฮ่องสอนนานแล้ว ดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม ภายในหมู่บ้านนักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิถีชีวิตของชาวกระเหรี่ยงคอยาว และปลอมเป็นกระเหรี่ยงเพื่อถ่ายรูปกับกะเหรี่ยงคอยาวได้
หมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวที่บ้านห้วยเสือเฒ่า คนไทยเข้าชมฟรี แต่ฝรั่งเสียค่าเข้าชมคนละ 250 บาท
แอบเปรียบเทียบ สาวชาวกระเหรี่ยงคอยาว ของหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวที่นี่ ดูจะแตกต่างจากหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาวที่เชียงใหม่ ตรงที่เขาดูเป็นธรรมชาติกว่า ในขณะที่สาวๆ กระเหรี่ยงในเชียงใหม่ จะดูเป็นสาวในเมืองกว่า รู้จักแต่งหน้าทาปาก ประหนึ่งเป่ะเว่อร์กว่าที่นี่เยอะค่ะ
เขามีห่วงแบบหลอกๆ ให้นักท่องเที่ยวลองใส่ เพื่อถ่ายรูปด้วยนะคะ นี่ขนาด แค่ครึ่งเดียวแล้วผูกไว้แป่บเดียวยังหนักมากๆ แต่พอถ่ายรูปคู่กันแล้ว เหมือนสามีภรรยากันเลยค่ะ!
ณ ที่หมู่บ้าน เราสามารถเดินชมเข้าไปในบ้านของชาวกระเหรี่ยงได้อย่างเฉกเช่นแขกผู้มีเกียรติของเขาเลยค่ะ นอกจากจะได้ถ่ายรูปกับชนพื้นเมืองที่นี่แล้ว ยังได้เลือกซื้อสินค้าที่บางอย่าง เขาก็ประดิษฐ์กันเอง บางอย่างเขาก็บอกกันตรงๆ ว่า รับมาขายค่ะ
(7) ไปกันต่อ ที่วัดพระธาตุดอยกองมู มีชื่อเรียกแต่เดิมว่าวัดปลายดอย พระธาตุเจดีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเป็นแห่งแรกของแม่ฮ่องสอน ชาวเมืองนับถือเป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน จากจุดนี้ของวัดพระธาตุดอยกองมู เป็นสถานที่ชมทัศนียภาพเมืองแม่ฮ่องสอนที่สวยงามอีก
ไม่หยุดพักค่ะ เดินทางกันตลอด เพราะว่า ไปต่อที่ (8) ถ้ำปลา
จริงๆ เราอยากจะเรียกเป็นโพรงมากกว่า เพราะว่า มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ในโพรงหิน กว้างประมาณ 2 เมตร ลึกประมาณ 1.5 เมตร มีลำน้ำไหลผ่านจากใต้ภูเขาตลอดเวลา ภายในโพรงหินเป็นที่อยู่ของปลาพลวงหินหรือปลามุง ซึ่งจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับปลาคาร์ฟ 
และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป
เพราะปลาที่นี่เขาว่าเป็นปลาถือศีลค่ะ โดยจะเห็นได้จากปลาที่นี่ชอบทานแต่ผลไม้เท่านั้น ไกด์หรือคนขับรถ บอกให้พวกเราแว่ะรับประทานอาหารที่นี่ค่ะ หิวไม่หิว ก็ต้องหาอะไรรองท้องไว้ค่ะ เพราะว่า เราก็จะเดินทางกลับปายกันแล้ว
สองชั่วโมงต่อมา เราก็มาถึง(9) จุดชมวิว กิ่วลม โดยรวมๆ คิดว่าที่นี่น่าจะเป็นจุดพักรถ และชมวิว มีของขายด้วยนะคะ อยู่บนรถตู้อุดอู้ได้ลงมายืดแข้งยืดขา ก็รู้สึกดีค่ะ (แต่เหนื่อยและเมารถมากๆ)
ขับต่อมาอีกแค่หนึ่งชั่วโมง ไกด์หรือคนขับรถ ก็ทยอยส่งพวกเราลงที่โรงแรมที่รับขึ้นมาเมื่อเช้าค่ะ ช่างเป็นทัวร์ที่ยาวนาน เต็มวันจริงๆ (เริ่ม ตีห้า จบทัวร์ประมาณ หกโมงเย็น)
ก็จำได้ไหมค่ะ ว่า ระยะทางจากปายไปแม่ฮ่องสอนมีตั้ง 1,864 โค้ง แต่ทั้งไปและกลับ ก็ต้อง คูณสอง เป็น 3,728 โค้งในวันเดียวกัน!!
ถ้ามีเวลาอยากจะแนะนำให้แบ่งเป็นสองวัน โดย ค้างคืนสักคืนหนึ่งที่แม่ฮ่องสอนค่ะ…
ทีมงานเราได้โหวตว่าชอบที่ไหนสุดสำหรับทริปนี้ ปรากฎว่า ผลโหวตสามอันดับแรกเป็น 1.บ้านกระเหรี่ยงคอยาว 2. น้ำตกผาเสื่อ และ 3. ภูโคลน แต่อย่างไรก็ตาม เราก็อยากกลับมาที่แม่ฮ่องสอนอีกแน่นอน!
อ่านทริปทั้งหมดใน ปาย และ แม่ฮ่องสอนได้ที่ Pai – Mae Hong Sorn
 |
|
|
|
Visited Date:27 December 2011
มีแต่สถานที่น่าเที่ยวทั้งนั้นเลยครับ ไว้มีโอกาศจะลองไปใช้บริการสปาโคลนดูมั่งครับ