บันทึกการเดินทางระหว่าง ฮิวส์ตั้น (เท็กซัส) ไป สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ช่วงเดือนธันวาคม 2023
อันนี้เป็นบันทึกจากประสบการณ์จริง ไม่ได้อวดรวยหรือ อวดว่านั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ แต่เราอยากเก็บบันทึกไว้ เวลาซื้อตั๋วเครื่องบินคราวหน้าเราจะได้ ใช้เงินที่เราเก็บสะสมมาให้คุ้มทุกบาททุกสตางค์เท่านั้นเอง
ต้องขอบอกว่า คร้้งสุดท้ายที่เราเดินทางจากอเมริกากลับไทยนั้นคือเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว ซึ่งยังเป็นปีที่ต้องฉีดวัคซีนโควิด19 และต้องตรวจโควิด19 ก่อนขึ้นเครื่องฯ ซึ่งก็ค่อนข้างมีขั้นตอนซับซ้อน แต่ รวมๆ แล้ว ค่าเดินทาง ค่าที่พัก กลับถูกมาก เพราะหลายๆ ที่ก็เพิ่งเริ่มๆ กลับมาประกอบกิจการกัน
แต่ครั้งนี้เราเดินทางช่วงเดือนธันวาคม เพราะทิมอยากไปเอาบรรยากาศวันคริสมาส ปีใหม่ที่ประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดของพวกเราอย่างแรง เพราะ นอกจาก อะไรๆ ก็แพงแล้ว ต้องไปเบียดไปแย่งกับนักท่องเที่ยวที่ได้หยุดยาวช่วงนี้อีก
เราเลือกใช้ไมล์สะสมแลก ตั๋วขาไป ของพวกเราสองคน (เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น เราสามารถเปลี่ยนตั๋วพร้อมกันได้สองคน) โดยใช้ไมล์ทั้งหมด 4แสนไมล์ กับเงินอีกประมาณ 50ดอลล่าร์ นับว่า ช่วยเราประหยัดไปได้เยอะเลย
ซึ่งตั๋วที่เราได้ ขาไปครั้งนี้กับสายการบินยูไนเต็ด โดยตรงเลย (จริงๆ มีให้เลือกทั้ง Nippon air, Air Singapore, EVA ซึ่งเป็น Star Alliance ทั้งหมด)
โดย เราจะบินจาก ฮูสตั้น ไป ซานฟรานซิสโก แล้วหลังจากนั้น ก็บินต่อไปที่ เมืองโซล เกาหลี โดยสายการบินยูไนเต็ด หลังจากนั้นเราจะบินด้วยสายการบินไทย จากโซลไปยังสนามบินสุวรรณภูมิ รวมตั้งแต่เที่ยวบินเที่ยวแรก จนถึงไทย เราจะได้เวลาเดินทางทั้งหมด xx ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่เลวร้าย
ยูไนเต็ดแอร์ไลน์ ส่งรายละเอียด และรายการอาหาร ที่นั่ง ที่เราสามารถเลือกระบุได้ก่อนวันเดินทาง พร้อมทั้งมีบริการใหม่สำหรับ ดรอปกระเป๋าเดินทาง
แต่พอวันเดินทางมาถึงจริงๆ เที่ยวบินแรกเราออกจากสนามบิน IAH เวลาตีห้า พวกเราตั้งใจจะไปถึงสนามบิน ตีสาม (ก่อนเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง) แต่เมื่อมาถึง เค้านเตอร์ของยูไนเต็ด มีนักท่องเที่ยวยืนล้อมกันเต็มไปหมด แต่เค้าเตอร์ทั้งหมดของยูไนเต็ดปิด ไม่มีพนักงานยืนสักคน
จนมีเจ้าหน้าที่คนนึง ประกาศผ่านไมโครโฟน ว่า นักท่องเที่ยวทุกท่านจะต้องทำการเช็คอินผ่านคีออส ด้วยตัวเองเท่านั้น โดยจะต้องทำการชั่งน้ำหนักกระเป๋าที่ใช้เดินทางเอง หากกระเป๋าใบใดมีน้ำหนักเกิน 50ปอนด์ ไม่ว่า กรณีใดๆ ให้ติดแท็กว่า น้ำหนักเกิน และคีออสจะเปิดให้ทำการตอน ตีสามครึ่ง (โดยประมาณ) นั่นหมายความว่า เรามาถึงก่อนเวลาและต้องยืนรอ ยืนต่อคิวที่หน้าคีออสกัน
มาตรงนี้อ่ะ พวกเรางง เพราะ จากตั๋วชั้นธุรกิจของเรา กระเป๋าเราสามารถหนักได้ถึง 75ปอนด์ แต่กระเป๋าพวกเราทั้ง4ใบ มีน้ำหนักเฉลี่ยที่ 50-55 ปอนด์เท่านั้น เราเลยคิดว่า กระเป๋าเราน้ำหนักไม่เกิน
สรุปเราปริ้นแท็กกระเป๋าผิด จากคีออส เราต้องเข็ญกระเป๋าไปตรงที่เขารับโหลดกระเป๋า ซึ่งพนักงานตรงนั้น เห็นกระเป๋าเราเกิน 50ปอนด์ไป 5ปอนด์ เขาให้เรากลับไปที่คีออส แล้วปริ๊นใหม่อีกรอบ!!!
เมื่อเรากลับมาที่เดิม เราหาปุ่มที่จะ ปริ๊นใหม่อีกรอบไม่ได้ จึงเรียกพนักงานฯให้เขามาช่วย พนักงานก็พยายามช่วย เขาใช้คีออสทั้งหมดสองตัวก็ไม่สามารถจะปริ๊นให้เราให้ สุดท้ายเขาต้องพาพวกเราไปยังเค้าเตอร์เพื่อปรินส์ให้จากเครื่องคอมฯ ของเขา นี่ขนาดเขาเป็นพนักงานมันยังไม่ง่ายสำหรับเขาเลยที่จะปริ๊นใหม่อีกรอบ เราไม่เข้าใจว่า ทำไม ยูไนเต็ดถึงให้ทุกคนใช้คีออสเองแบบนี้ มันดูโกลาหลและสับสนมากๆ
สรุป ไม่ว่า คุณจะซื้อตั๋วชั้นอะไร หากคุณไม่ใช่ 1K คุณก็ต้องทำทุกอย่างเอง
เรามาถึงตอนตีสาม และกว่าจะทำทุกอย่างเสร็จสิ้นจนผ่านจุดตรวจเข้าไปข้างในก็ตีสี่กว่าๆ ! เรียกว่า ไม่มีความประทับใจใดๆ เหลือให้กับสายการบินยูไนเต็ดเลย
แต่พอยิ่งมาขึ้นเครื่องบินเครื่องแรก จาก ฮูสตั้น ไป ซานฟรานซิสโก เป็นการบินชั้นธุรกิจภายในประเทศ และเราก็ขอแสดงความเสียใจกับใครที่เสียเงินมาบินชั้นนี้ เพราะได้แค่ที่นั่งที่ใหญ่กว่าชั้นธรรมดา การบินเพียงแค่สามชั่วโมง เราได้อาหารเช้าที่เลือกคือโยเกิร์ตกับผลไม้สด และขนมปังเย็นๆ แข็งๆ ก้อนนึง ผลไม้ดูเละยิ่งกว่าออกมาจากกระป๋อง เราแทบจะไม่ได้กล้าแตะอาหารที่เราได้ แอบนึกในใจว่า ให้กล้วยเราสักลูกหนึ่ง กับ ขนมกรอบๆ สักถุงนึงจะดีกว่าเสียอีก
ตอนมาถึงซานฟรานซิสโกฯ ทิมถามว่าไม่ไปช้อปปิ้งที่ดิวตี้ฟรีเหรอ? เราบอกว่า เราจะไปช้อปที่โซล เพราะเราชอบซื้อของเกาหลีมากกว่า
เล้าจ์ของสายการบินยูไนเต็ด ทริปนี้เราได้เข้าแค่ที่ซานฟรานซิสโกเท่านั้น เพราะรอขึ้นเครื่องเกือบสามชั่วโมง โดยรวมก็ไม่มีอะไรหวือหวา มีของทานเล่นทั่วไป
ไปๆ มาๆ เครื่องที่เราต่อที่ซานฟรานฯ ดีเลย์ ไปสองชั่วโมงกว่าๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า มีกระเป๋าเดินทางตกหล่น และกำลังรอโหลดให้ครบ ตอนนั้นเราสองคนมองหน้ากัน ว่าเป็นกระเป๋าของเราหรือเปล่า? แต่จะเป็นกระเป๋าของใครก็ชั่ง แต่การรอสองชั่วโมง ทำให้เรารู้แน่ๆ ว่าเราจะต้องตกเครื่องบินที่โซลแน่ๆ ใครจะไปเชื่อว่า นี่มันจะปี 2024 แล้ว สายการบินยูไนเต็ดมีปัญหาทางเทคนิคเรื่องโหลดกระเป๋าถึง สองชั่วโมง? ไม่ใช่ปัญหาเรื่องอากาศ หรือ ปัญหาทางเซฟตี้ แต่เป็นปัญหาเรื่องโหลดกระเป๋า จริงๆ เหรอ?
เราเริ่มไม่สบายใจล่ะ ว่าเราต้องนอนค้างที่สนามบินที่โซลอีกวัน เสียค่าโรงแรมฟรีคืนหนึ่งที่ไทยเหรอ? หรือยังไง แต่สุดท้ายเราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องรอต่อไป
มาพูดถึงการบริการบนสายการบิน เอาจริงๆ ความโชคไม่ดีก็ยังอยู่กับเรา เมื่อครอบครัวข้างๆ เป็นชาวจีนและมีลูกสาววัยร้องไห้ระงม เรียกว่า 80% ในการเดินทาง เด็กน้อยร้องไห้ตลอดทาง ถ้าไม่ร้อง ก็เคาะอะไรเล่น ซึ่งพ่อแม่ก็ไม่มีท่าทางจะเกรงใจใดๆ และท่าทางพ่อแม่ก็เสียงดังเองอีกด้วย การด่าว่าหรือแม้แต่การเขียนถึงเด็กอาจจะทำให้เราดูเป็นผู้ใหญ่ไม่ดี แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่เราเจอ
ตอนเราขึ้นเครื่องใหม่ๆ ทางยูไนเต็ดให้ผ้าห่มสองผืน เป็นผืนใหญ่ที่เรารู้ว่าเขาให้ใช้บนเครื่อง กับผืนเล็กๆ ม้วนและมีป้ายว่า เป็นใยธรรมชาติอย่างงั้นอย่างงี้ เราก็สงสัย ว่าทำไมให้ผ้าห่มสองผืน หรือ ผืนเล็กเขาแจก เราเลยถามพนักงาน เขาบอกว่า ก็เอาไว้ใช้บนเครื่องเท่านั้น แต่ถ้าเอาไป ตม เกาหลี อาจจะถาม (คือ เขาพูดแค่นี้จริงๆ เขาไม่ได้บอกว่า เขาไม่ให้เอาไป) สรุป เราก็ไม่แกะใช้ ก็จะใช้อีกทำไม ในเมื่อมันมีผืนใหญ่แล้ว และก็ไม่ได้แอบเอาลงมาด้วย สรุป งง ว่าแจกทำไมสองผืน?
อาหารบนเครื่องก็นับว่า พอถูกๆ ไถๆ ไปค่ะ บอกตัวเองว่า ฟรี แต่เอ๊ะจริงๆ มันก็ไม่ฟรีนะ เพราะกว่าจะได้ไมล์สะสมมาขนาดนี้ เราก็ลงทุนไปไม่น้อย!
ที่นั่งเราก็ไม่สบายเลยค่ะ เป็นเหมือนแคปซูล แค่มันปรับนอนได้ ขนาดเราตัวเล็กเรายังรู้สึกอึดอัด ที่นั่งคู่ที่เราเลือก ก็ไม่ใช่ที่นั่งคู่ เรียกว่า ถอนหายใจยาวๆ กับชั้นบิซิเนส เครื่องบินลำนี้ค่ะ
จะว่าไป พนักงานบนเครื่องจากซานฟรานฯ มาโซล ส่วนมากน่าจะเป็นชาวเกาหลีค่ะ แต่ด้วยความเป็นสายการบินอเมริกัน เขาไม่ค่อยเน้นเรื่องการแต่งตัว หรือทรงผม สังเกตุได้จากทรงผมของแอร์บนเครื่องค่ะ แต่อันนี้ก็เป็นแค่การมองดูเฉพาะภายนอกนะคะ ส่วนเรื่องการบริการเขาก็ทำตามหน้าที่ค่ะ ถึงเวลาเสิร์ฟก็เสิร์ฟ
เมื่อมาถึงโซล ตอนลงจากเครื่องฯ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินจะมายืนรอ พร้อมกับตั๋วเครื่องบินฯ อันใหม่ของเรา ซึ่งเปลี่ยนจากสายการบินไทย เป็นสายการบินโคเรีย แทน เราก็แอบดีใจ เดินตามแผนที่ไปเช็คอินตั๋วกัน แต่พอไปถึง เขาบอกว่า ว่างพอดีสองที่ แต่ไม่ได้เป็นที่นั่งติดกัน และ เป็นที่นั่งชั้นธรรมดาเท่านั้น
เราไม่มีทางเลือก ก็ต้องไป จากกำหนดที่เราจะต้องถึง สนามบินสุวรรณภูมิตอน สามทุ่มของคืนวันที่ 18 ธค เราก็ถึงสนามบินสุวรรณภูมิตอนประมาณตีสองของวันที่ 19 ธค แทน
และที่ไม่คาดคิดคือ กระเป๋าเดินทางของพวกเรา 4 ใบ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิกับเราเพียงแค่ใบเดียวเท่านั้น และเป็นใบที่ไม่มีของใช้จำเป็นอะไรเลย เราต้องออกไปซื้อของใช้ส่วนตัวอีกเซ็ตนึง เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะได้กระเป๋าคืนเมื่อไร…
ทางสายการบินโคเรีย ได้ออกใบ Property Irregularity Report ให้เราใบหนึ่ง เขาบอกว่าจะติดต่อกลับเมื่อได้กระเป๋าของเรา และจะนำส่งให้ที่โรงแรมฟรี
สายการบินโคเรีย มีบินมาไทย ทุกวัน ๆ ละ 3-4 รอบ แต่สุดท้าย เราได้กระเป๋าอีก 3ใบคืน ตอนเที่ยงคืน ของอีกสองคืนต่อมา เท่ากับว่า กระเป๋าเราสูญหายและดีเลย์ไปกว่า 48 ชั่วโมง
เราได้ทำการค้นหาข้อมูลว่า สายการบินยูไนเต็ดจะรับผิดชอบอย่างไร นอกจากเราจะสูญเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตอนรอกระเป๋าแล้ว เรายังสูญเสียที่นั่งชั้นบิซิเนส จากโซลมาไทยอีกด้วย
ตอนแรก ยูไนเต็ดบอกว่า เราต้องทำเรื่องไปที่ สายการบินโคเรีย เพราะเป็นสายการบินที่ทำให้เกิดปัญหา ตอนแรกเราเสียความรู้สึกมากๆ ที่ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นสายการบินต้นทาง ปัดความรับผิดชอบให้ สายการบินโคเรีย แต่เวลาไปหาข้อมูล ส่วนมากเขาก็จะให้สายการบินที่เรานั่งจริงๆ นั้นเป็นคนรับผิดชอบ ไม่ว่าเราจะซื้อตั๋วมากับสายการบินอื่นก็ตาม
และเมื่อโทรไปสอบถามสายการบินโคเรีย และทำเรื่องขอ compensate นั้น ทางสายการบินโคเรีย แจ้งว่า จะให้เพียงท่านละ 50ดอลล่าร์ เท่านั้น ซึ่งโอนมาเป็นเงินไทยที่ 3400 บาท และขอย้ำว่า ถ้าเราไม่สอบถามไปทางสายการบินโคเรีย เราก็จะไม่ได้เงินก้อนนี้ค่ะ เพราะเขาไม่มีอีเมล์หรือมีเจ้าหน้าที่แจ้งเราเลย เพราะเจ้าหน้าที่ที่สนามบินสุวรรณภูมิมีเพียงจะรับผิดชอบตามกระเป๋า และนำส่งคืนให้เท่านั้น
ต่อมา ยูไนเต็ด ได้ส่งอีเมล์แสดงน้ำใจโดยการมอบ ไมล์ให้พวกเราคนละ 7500 ไมล์ (ถ้าหากเทียบเป็นเงิน ก็น่าจะประมาณ $75) ซึ่ง ทางเราก็ส่งอีเมล์ไปท้วงติงว่า แค่7500 ไมล์กับการที่เราเสียที่นั่งชั้นธุรกิจไปนั้นดูจะไม่แฟร์เสียเลย
หลังจากนั้น ยูไนเต็ด ได้ส่งไมล์กลับคืนมาที่บัญชีเราครึ่งหนึ่ง ของที่พวกเราใช้ไป คือ ส่งคืนมา 200,000 ไมล์ ก็ยังดีค่ะ แต่มันทำให้เรารู้ว่า ถ้าเราจะใช้ไมล์แลกตั๋วเครื่องบินกับ Star Alliance อีก เราจะใช้แลกกับสายการบินอื่นที่ไม่ใช่ ยูไนเต็ด…
ถ้าเราให้คะแนนในการเดินทางกับสายการบินยูไนเต็ดครั้งนี้ เราให้ แค่ 5/10 เท่านั้น คือให้จากการบริการโดยรวม
*ของใช้ส่วนตัว ที่ได้รับแจกบนเครื่องบินสายยูไนเต็ด เที่ยวบิน จากซานฟรานซิสโก ไป เมืองโซล เกาหลี
ขากลับเราบินกลับ กับ EVA Airline ซึ่งเป็นการจ่ายค่าตั๋วเต็มราคาเอง – อ่านต่อ